น้ำท่วม 'ทางหลวง' สัญจรไม่ได้ 9 เส้นทาง 'อุบลฯ' หนักสุด

น้ำท่วม 'ทางหลวง' สัญจรไม่ได้ 9 เส้นทาง 'อุบลฯ' หนักสุด

9 เส้นทางสัญจรไม่ได้ "อุบลฯ" หนักสุด "กรมทางหลวง" พร้อมดูแลผู้ประสบภัย

กรมทางหลวง โดยฝ่ายประชาสัมพันธ์ แจ้งว่า กรมทางหลวง ได้ทำการสรุปเหตุการณ์อุทกภัยจากพายุโพดุลและคาจิกิ สถานการณ์น้ำปัจจุบันวันที่ 13 กันยายน 2562 เวลา 12.00 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม 4 จังหวัด ได้แก่ ยโสธร ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี และศรีสะเกษ ทางหลวงที่การจราจรผ่านไม่ได้ 9 แห่ง รายละเอียด ดังนี้

จ.ร้อยเอ็ด จำนวน 1 แห่ง
1. จ.ร้อยเอ็ด ทล.2043 ตอน ยางเฌอ – มหาชนะชัย ช่วงกม.ที่ 41-43 ระดับน้ำสูง 45 ซม. ทางเลี่ยง ใช้ ทล.23 ไป อ.เสลภูมิ เข้า จ.ร้อยเอ็ด ใช้ ทล.215 ไป อ.สุวรรณภูมิ
จ.ศรีสะเกษ จำนวน 1 แห่ง
2. จ.ศรีสะเกษ ทล.2412 ตอน ท่าศาลา – ละทาย ช่วงกม. ที่ 12-16 น้ำท่วมสูง ระดับน้ำสูง 105 ซม. ติดตั้งป้ายเตือนและจัดเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์การจราจรในพื้นที่
จ.อุบลราชธานี จำนวน 7 แห่ง
3. จ.อุบลราชธานี ทล.24 ตอน บ้านสวน – เขื่องใน ช่วงกม. ที่ 418-420 ระดับน้ำสูง 110 ซม. ทางเลี่ยง เลี้ยวขวา ทล.231 ไป อ.เมืองอุบลราชธานี
4. จ.อุบลราชธานี ทล.2382 ตอน เขื่องใน – ธาตุน้อย ช่วงกม.ที่ 12-17 ระดับน้ำสูง 10-25 ซม. รถไม่สามารถผ่านได้ น้ำไหลแรง ติดตั้งป้ายเตือนและจัดเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์การจราจรในพื้นที่
5. จ.อุบลราชธานี ทล.2383 ตอน ม่วงสามสิบ – ดู่น้อย ช่วงกม.ที่ 11-15 ระดับน้ำสูง 40-60 ซม. ปิดการจราจร กม.10-17 ทางเลี่ยง ทล.23 เข้า ทล.212
6. จ.อุบลราชธานี ทล.2404 ตอน เขื่องใน – นาคำใหญ่ ช่วงกม.ที่ 4+929 (สะพานห้วยเรือ) คอสะพานชำรุด ปิดการจราจร ติดตั้งป้ายเตือนและจัดเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์การจราจรในพื้นที่
7. จ.อุบลราชธานี ทล.2408 ตอน นาคำใหญ่ – โพนเมือง ช่วงกม. ที่ 14-18 ระดับน้ำสูง 10-20 ซม. รถไม่สามารถผ่านได้ น้ำไหลแรง ติดตั้งป้ายเตือนและจัดเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์การจราจรในพื้นที่
8. จ.อุบลราชธานี ทล.2412 ตอน ท่าวารี – ท่าศาลา ช่วงกม.ที่ 9-10 ระดับน้ำสูง 25 ซม. รถไม่สามารถผ่านได้ น้ำไหลแรง ติดตั้งป้ายเตือนและจัดเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์การจราจรในพื้นที่
9. จ.อุบลราชธานี ทล.2413 ตอน บ้านแอ้ – หนองขอน ช่วงกม. ที่ 12-13 ระดับน้ำสูง 50 ซม. ติดตั้งป้ายเตือนและจัดเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์การจราจรในพื้นที่

กรมทางหลวงได้ติดตั้งป้ายเตือนและอุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์นำทาง ในบริเวณทางหลวงที่ถูกน้ำท่วม พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์จนกว่าจะคลี่คลาย โดยขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือ ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อ ได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)