พึ่งแบงก์รัฐผ่อนเกณฑ์แอลทีวี กระตุ้นอสังหาฯโค้งท้าย

พึ่งแบงก์รัฐผ่อนเกณฑ์แอลทีวี กระตุ้นอสังหาฯโค้งท้าย

“กอบศักดิ์” เผยรัฐจ่อผุดมาตรการกระตุ้นอสังหาฯดันโค้งสุดท้าย เรียกถกผู้ประกอบการ - แบงค์รัฐหาทางผ่อนปรนสินเชื่อ ดูความเหมาะสมลดค่าโอน ผ่อนเกณฑ์แอลทีวี หลังผู้ประกอบการอสังหาฯโอดยอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่ง 40% หวังงานมหกรรมบ้านฯดันยอดขาย

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ขาลง จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่สถาบันการเงินคุมเข้มสินเชื่อ ล้วนเป็นตัวแปรฉุดกำลังซื้อ ทำให้ธุรกิจอสังหาฯต้องเดินหน้ากระตุ้นตลาดผ่านการจัดโปรโมชั่น แคมเปญ รวมไปถึงการเลื่อนเปิดตัวโครงการใหม่ ในงาน “มหกรรมบ้านและคอนโด” ครั้งที่ 41 จึงเป็นการอัดเปญโค้งสุดท้ายปลายปี เพื่อระบายสต็อกอสังหาฯที่ประเมินกันว่ามีมากถึง 9 หมื่นยูนิต

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวในการเป็นประธานพิธีเปิดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ที่จัดโดย 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย วานนี้ (12 ก.ย.) ว่า จากตลาดอสังหาฯชะลอตัว เพื่อกระตุ้นตลาดอสังหาฯในปลายปี ขณะนี้อยู่ระหว่างเชิญผู้เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้ประกอบการอสังหาฯ เข้ามาหารือประเด็นที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ ครอบคลุมไปถึงมาตรการคุมเข้มสินเชื่อ (แอลทีวี) ตลอดจนพิจารณาความเหมาะสมในการผ่อนปรนค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ เพื่อทำให้ตลาดกลับมาฟื้นตัว ซึ่งจะต้องประเมินว่ามาตรการใดมีความเหมาะสม  

นอกจากนี้ จะหารือกับธนาคารของรัฐ เกี่ยวกับการปรับหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อ เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น  รวมไปถึงเร่งสนับสนุนวงการเงินการปล่อยกู้ บ้านราคาหลังละ1ล้านบาท จำนวน1ล้านหลัง ในวงเงิน5หมื่นล้านบาท

“จะหารือกับธนาคารรัฐเพื่อตอบสนองประชาชนอยากซื้อบ้านแต่กู้ไม่ได้ เพราะธนาคารไม่อนุมัติ คาดว่าจะมีมาตรการออกมาช่วยเหลือและพยายามออกมาให้ทันภายในสิ้นปีนี้ โดยอาจจะเป็นมาตรการที่ผ่านธนาคารของรัฐ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจอสังหาฯคึกคักมากขึ้น” 

เผยยอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่ง40%

นายอธิป พีชานนท์ นายกกิตติมศักดิ์และที่ปรึกษาสมาคมบ้านจัดสรร กล่าวว่า ปัจจุบันสถาบันการเงินระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อมาก ส่งผลให้สัดส่วนการปฏิเสธสินเชื่อ(Reject)สูงถึง40% โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพอิสระ 

ขณะที่ภาพรวมอสังหาฯใน3ไตรมาสของปีนี้ ประเมินว่าติดลบ5% คาดว่าในช่วง3เดือนสุดท้ายก็ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้ แม้จะมีมาตรการกระตุ้นตลาดจากรัฐบาล เพราะต้องใช้เวลาเยียวยากว่าจะฟื้นตลาดให้กลับสู่สภาพปกติ จากที่ติดลบตั้งแต่ในช่วงไตรมาสที่2ทำให้คาดว่าทั้งปีอสังหาฯ จะอยู่ที่0 % ถึงติดลบ 10%

เขายังกล่าวต่อว่า ภาคอสังหาฯ ที่กำลังได้รับผลกระทบมาก กลุ่มต่างจังหวัดมียอดขายลดลงมากกว่า15% เพราะได้รับผลกระทบจากพืชผลทางการเกษตรตกต่ำทำให้กำลังซื้อผู้บริโภคชะลอตัว ขณะที่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลบ้านจัดสรรยังเติบโตดี เพราะเป็นความต้องการที่แท้จริง (Real Demand) ขณะที่ปัญหาในปัจจุบันอยู่สินค้าคงเหลือในตลาด (Inventory)ที่มีจำนวนมาก

“โอเวอร์ซัพพลายจึงไม่ใช่ปัญหา แต่กลัวการกู้ของใหม่ไม่ผ่าน เมื่อยังขายไม่ได้จึงเปิดตัวโครงการใหม่ไม่ได้ ทำให้ยอดเปิดตัวโครงการใหม่ในปัจจุบันลดลงไป20%"

นายอธิป ยังแนะว่า ภาครัฐควรดึงธนาคารของรัฐมาช่วยปล่อยสินเชื่อบ้านให้สะดวกมากขึ้น เพื่อกระตุ้นตลาดอสังหาฯให้เดินหน้าต่อไปได้

มหกรรมบ้านฯปลุกตลาด6พันล.

ด้านนายชูรัชฏ์ ชาครกุล ประธานจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 41 กล่าวว่า การจัดงานมหกรรมบ้านฯ เชื่อว่าจะเป็นการสร้างบรรยากาศการซื้อขายบ้านในช่วงปลายปีให้คึกคัก ส่งเสริมให้สมาชิกทั้งรายใหญ่ รายกลาง รายเล็ก มีโอกาสนำผลงานด้านที่อยู่อาศัยของโครงการต่างๆ มากกว่า 1,000 โครงการมาเสนอขายในงานเดียว จากผู้ประกอบการที่ร่วมออกบูธกว่า 100 บูธ เพื่อให้เรื่องที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องง่าย มาที่เดียวจบ ครบทุกที่ ทุกราคา ทุกประเภท ทุกทำเล ตรงกับความต้องการเพื่อให้ผู้บริโภคและประชาชนทั่วไปที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยมีโอกาสเลือกซื้อที่อยู่อาศัยในระดับราคาที่ต่างกันมากที่สุด

นอกจากนี้ภายในงานมีสถาบันการเงินชั้นนำต่างๆ ให้ความสนใจ และเสนอเงื่อนไขพิเศษด้านการให้สินเชื่อรายย่อยสำหรับผู้ที่จะซื้อที่อยู่อาศัยภายในงานอีกด้วยทางสมาคมฯ ผู้จัดงานยังได้จับมือกับทางธนาคารให้บริการผู้เข้าชมงานสามารถตรวจสอบวงเงินสินเชื่อเบื้องต้นก่อนตัดสินใจจองบ้านและคอนโดฯ ภายในงาน ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกที่อยู่อาศัยที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณที่มี หรือหากต้องการที่จะซื้อบ้านในอนาคตนั้นควรจะวางแผนการออมเงินอย่างไร

ชูแคมเปญ Amazing Deals

นอกจากนี้ งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 41 ได้จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “Amazing Deals”สุดยอดข้อเสนอสำหรับคนอยากมีบ้านและคอนโดฯระหว่างวันที่12–15 ก.ย.นี้ ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ภายในงานจะเป็นการรวบรวมโครงการที่อยู่อาศัย “ ครบทุกที่–ทุกทำเล - ทุกราคา” รวมกว่า 1,000 โครงการ พร้อมด้วย “BESTPROMOTION”เฉพาะภายในงาน

ทั้งนี้ตั้งป้าหมายที่จะกระตุ้นยอดขายภายในงานประมาณ4พันล้านบาท คาดว่าจะส่งผลต่อเนื่องภายหลังงานเพิ่มขึ้นอีกภายใน1เดือนข้างหน้าประมาณ2-3พันล้านบาท โดยรวมจะเพิ่มยอดขายจากงาน 6,000-7,000 ล้านบาท ซึ่งเท่ากันกับการจัดงานในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ท่ามกลางภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในภาวะชะลอตัว