‘ดาวโจนส์’ ปิดแดนบวก 7 วันติด

‘ดาวโจนส์’ ปิดแดนบวก 7 วันติด

ดาวโจนส์ปิดแดนบวกวันที่ 7 ติดต่อกัน วานนี้ (12 ก.ย.) ขณะที่นักลงทุนคลายกังวลสงครามการค้าสหรัฐ-จีน และขานรับการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ปิดการซื้อขายวันพฤหัสบดี ตามเวลาสหรัฐ เพิ่มขึ้น 45.41 จุด (0.17%) ปิดที่ 27,182.45 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 8.64 จุด (0.3%) ปิดที่ 3,009.57 จุด ดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 24.79 จุด (0.30%) ปิดที่ 8,194.47 จุด

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐประกาศผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันพุธ (11 ก.ย.) ว่า เขาตกลงที่จะเลื่อนการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์ออกไปอีก 2 สัปดาห์ ตามคำร้องของรัฐบาลปักกิ่ง

“เพื่อเป็นการแสดงไมตรีจิต เราตกลงกันแล้วว่าจะเลื่อนการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจีน 2.5 แสนล้านดอลลาร์ (จาก 25% เป็น 30%) จากวันที่ 1 ต.ค. มาเป็น 15 ต.ค.นี้” นายทรัมป์ทวีต

ผู้นำสหรัฐเผยด้วยว่าการเลื่อนขึ้นภาษีเป็นคำขอจากนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีนและเนื่องในโอกาสที่จีนจะฉลองวันชาติครบ 70 ปี

คำประกาศของนายทรัมป์มีขึ้นหลังรัฐบาลจีนประกาศจะยกเว้นการเก็บภาษีสินค้าสหรัฐ16 ประเภทเป็นเวลา 1 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย.ก่อนที่จะเปิดการเจรจาการค้ารอบใหม่กับสหรัฐในเดือนหน้า

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังขานรับผลการประชุมของอีซีบีวานนี้ ซึ่งมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับอีซีบีสู่ระดับ -0.50% จากเดิมที่ระดับ -0.40% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%

อีซีบีแถลงด้วยว่า จะรื้อฟื้นโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ในเดือนพ.ย. ซึ่งอีซีบีจะซื้อพันธบัตรในวงเงิน 2 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน โดยยังไม่มีกำหนดเวลาสิ้นสุดโครงการ