'ธรรมนัส' แจงสภา ยืนยันคดีศาลออสเตรเลียจบแล้ว-ขอทำงานต่อ

'ธรรมนัส' แจงสภา ยืนยันคดีศาลออสเตรเลียจบแล้ว-ขอทำงานต่อ

"ธรรมนัส" แจงสภา ยืนยันคดีศาลออสเตรเลียจบแล้ว -ขอทำงานต่อ "ไวพจน์" โผล่ประท้วงในสภา หลังศาลพิพากษาจำคุก คดีล้มประชุมอาเซียน

เมื่อวันที่ 11 ก.ย.62 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ช่วงกระทู้ถามด้วยวาจา พล.ต.ท.วิศณุ ม่วงแพรสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ตั้งกระทู้ถามสดต่อนายกฯ ถึงความรับผิดชอบต่อการแต่งตั้ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส ได้รับมอบหมายให้ชี้แจง

โดยพล.ต.ท.วิศณุ ตั้งคำถามตอนหนึ่งว่าถึงกรณีที่ร.อ.ธรรมนัส เคยถูกศาลประเทศออสเตรเลียพิพากษาจำคุก เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนและค้ายาเสพติด ทั้งนี้ก่อนหน้าที่จะได้รับการเสนอให้แต่งตั้งในตำแหน่ง มีการตรวจสอบจากโซเชียลมีเดีย ซึ่งร.อ.ธรรมนัส เคยชี้แจงว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนและค้ายา ซึ่งล่าสุดหนังสือพิมพ์ของประเทศออสเตรเลียตีพิมพ์บทความ หัวข้อที่แปลจากภาษาอังกฤษว่า จากซาตาน สู่เสนาบดี ซึ่งรายงานฉบับดังกล่าว​มีคำให้การของร.อ.ธรรมนัส และหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่า ร.อ.ธรรมนัส มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีดังกล่าว และร.อ.ธรรมนัส ถูกขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าประเทศ

“ผมขอถามนายกฯ ว่า การจัดตั้งครม. มีรายงานข่าวร.อ.ธรรมนัส ถูกจำคุกโดยศาลออสเตรเลีย ถือว่าขัดคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญ นายกฯ​ได้ตรวจสอบเชิงลึกเรื่องดังกล่าวนี้ ทำไมถึงไม่พบข้อเท็จจริงที่หนังสือพิมพ์ต่างประเทศรายงาน หรือมีการปกปิด หรือช่วยเหลือกัน ซึ่งกระทบต่อภาพลักษณ์และสร้างความเสียหายต่อประเทศ นายกฯ จะรับผิดชอบอย่างไร” พล.ต.ท.วิศณุ ตั้งคำถาม

จากนั้นร.อ.ธรรมนัส ชี้แจงว่า เรื่องที่ตั้งกระทู้ถามด้วยวาจาเป็นเรื่องส่วนตัวของตนที่เกิดขึ้นเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา โดยประเด็นที่ตนถูกตั้งคำถามข้อแรกใน ปี 2540 ที่ตนถูกกล่าวหาว่าร่วมกับผู้ใต้บังคับบัญชาทำให้บุคคลอื่นเสียชีวิต ข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาของศาลคดีดังกล่าวถึงที่สุด เมื่อ 2546 ไม่มีคู่ความอุทธรณ์คดีโดยไม่มีการลงโทษ และตนเป็นผู้ชนะคดี ทั้งนี้คดีในประเทศไทยตนไม่เคยถูกพิพากษาว่ากระทำผิดในคดีใดๆ ส่วนกรณีที่เป็นคดีที่เกิดประเทศออสเตรเลียผมยืนยันว่าไม่รับสารภาพว่าขนยาเสพติด การพรีบาร์เกนนิ่ง ผมไม่ได้เข้าสู่กระบวนการไต่สวน หรือสอบสวน แต่ถูกล็อคอัพ 8 เดือน จากนั้นถูกส่งไปดูผู้ต้องขังเด็กที่เกเร เมื่อทำงานเสร็จก็กลับมานอนที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ ทั้งนี้ 4 ปีคดีจบ เพราะศาลประเทศออสเตรเลียให้ผมอยู่ในกระบวนการพรีเกนนิ่งเพื่อให้กระบวนการไต่สวนแล้วเสร็จแค่นั้น แต่เมื่อยุติ ตนยังอยู่ต่อเพราะอยากใช้ชีวิตกับครอบครัว

"นายไมเคิลฐานะเจ้าของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ส่งอีเมล์มาหาผมและขอคุยกับผมโดยไม่ทราบเหตุผล แต่นัยยที่ไมเคิลสอบถาม คือ ให้พูดคุย ผมตอบว่าจะคุยเรื่องอะไร เพราะไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ และขอให้ไปดูประวัติตัวเองว่านำเสนอข่าวอะไรบ้าง ส่วนที่อ้างคำพิพากษานครซิดนีย์ ซึ่งเป็นศาลท้องถิ่น อ้างว่ามีคำให้การของผม และอ้างว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีเครื่องดักฟังผมนั้น ไม่ทราบว่าได้ศึกษากฎหมายหรือไม่ เพราะบทลงโทษของศาลออสเตรเลีย หากมีครอบครองในจำนวนมากต้องติดถึงคุกตลอดชึวิต ดังนั้นอย่าเอาแต่มันพูดเท่านั้น ตอนผมไปประเทศออสเตรเลียยังเด็ก​ ภาษาอังกฤษยังพูดไม่รู้เรื่อง ฟังยังไม่กระดิก ทั้งนี้คดีนี้เมื่อศาลพิจารณาถึงที่สุด ต่างชาติที่ต้องคดีถูกยกฟ้อง” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

ร.อ.ธรรมนัา ชี้แจงได้ว่า ตามกระทู้ที่ถามตนขอตอบแทนนายกฯ ว่า ​ชีวิตของตนผ่านพระราชกฤษฎีกา และ พระราชบัญญัติล้างมลทินมาหลายฉบับ ซึ่งบุคคลที่เป็นตำรวจทราบดีว่ามีสารสำคัญอะไรบ้าง ทั้งนี้ตนขออยู่กับปัจจุบัน และขอทำงานเพื่อประชาชน อย่านำเรื่องไร้สาระโจมตีกัน ทั้งนี้ตนถือว่าโชคดีที่ใช้เวทีของสภาฯ ชี้แจงเรื่องในอดีต เมื่อเกือบ 30 ปีของตน ตจนไม่ยอมเรื่องอดีต ทำลายอุดมการณ์ที่ตั้งใจใช้ชีวิตที่เหลือทำเพื่อประชาชน ไม่ว่าตนอยู่ในสถานะใดๆ ให้ปฏิญาณขอทำงานเพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน และรักษาเสาหลักของบ้านเมือง คือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

“หลังจากวันนี้ ฝันร้ายเหล่านี้ต้องหายไป จากวันนี้ หากใครสงสัยประเด็นที่ผมกล่าว ไปถามผมส่วนตัวได้ และต่อไปนี้จะเอาจริงการบังคับใช้กฎหมาย ไม่ว่าใครพาดพิง ทั้งนี้หากพรรคไหน ไม่ว่าฝ่ายค้านหรือรัฐบาลหากมีเรื่องของประชาชนและประโยชน์ประชาชนจะรับไปช่วยเหลือให้ดีที่สุด” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

จากนั้น พล.ต.ท.วิศณุ ตั้งคำถามต่อข้อเท็จจริงที่หนังสือพิมพ์ประเทศออสเตรเลียเผยแพร่ หรือ คำชี้แจงของร.อ.ธรรมนัส ซึ่งฝ่ายค้านถือเป็นส่วนที่ต้องตรวจสอบ ทั้งนี้เชื่อว่าจะมีคำพิพากษาฉบับเต็มออกมาเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ดีมีคำถามต่อไปที่ต้องการทราบข้อเท็จจริงจากนายฯ คือ เมื่อพบการตรวจสอบดังกล่าวจะปรับรัฐมนตรีที่มีปัญหาออกจากคณะรัฐบาลหรือไม่

ต่อจากนั้น นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่สอง ฐานะประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า คำถามที่ตั้งดังกล่าวไม่จำเป็นต้องตอบ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อีกทั้งหมดเวลาแล้วขอขอบคุณรัฐมนตรีที่มาตอบกระทู้

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าระหว่างที่พล.ต.ท.วิศณุ ตั้งคำถามนั้น พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินลงโทษจำคุก 4 ปี ข้อหาร่วมใช้กำลังล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ปี 2552 ลุกประท้วงเพราะนำเอกสารที่ไม่ได้รับอนุญาตมาอภิปรายในสภา ซึ่งถือว่าผิดข้อบังคับ​ ซึ่งนายศุภชัย วินิจฉัยว่าไม่ให้นำเอกสารดังกล่าวมาอ่านเพราะยังไม่ผ่านการตรวจสอบ