Trade war ผ่อนคลาย

Trade war ผ่อนคลาย

ระวังแรงขายทำกำไรตามสัญญาณเทคนิคหลังดัชนียังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,680 จุด

ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index ปิดปรับลง -5.29 จุด (-0.32%) ปิดที่ระดับ 1,666 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.8 หมื่นล้านบาท แม้ว่าจะมีแรงซื้อกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น แต่ดัชนีถูกแรงขายลดความเสี่ยงก่อนการประชุม ECB ในวันที่ 12 ก.ย. รวมถึงแรงขายทำกำไรตามสัญญาณเทคนิคหลังดัชนีดีดตัวขึ้นแรงมาก่อนหน้านี้โดยส่วนใหญ่เป็นแรงขายในกลุ่ม ICT FOOD และ COMM ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติพลิกเป็นฝั่งขายสุทธิ 2,637 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,440 ล้านบาท แต่ Net Long TFEX จำนวน 12,210 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้

เรามีมุมมองเป็นกลาง-บวกคาด SET ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,670 - 1,675 จุดก่อนสลับอ่อนตัว หลังสถานการณ์ Trade war ผ่อนคลายลงโดยจีนยื่นข้อเสนอซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐเพิ่มขึ้นหากสหรัฐผ่อนคลายข้อจำกัดการซื้อสินค้าของ Huawei และเลื่อนการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 2.5 แสนล้านดอลลาร์ในวันที่ 1 ต.ค. ขณะเดียวกันสหรัฐกำลังพิจารณาเลื่อนการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนที่มีกำหนดในวันที่ 15 ธ.ค.ด้วยเช่นกัน ส่งผลให้ US Bond yield ดีดตัวขึ้นและเป็นบวกต่อตลาดหุ้น นอกจากนี้ความคาดหวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม ECB (12 ก.ย.) และ FOMC (17-18 ก.ย.) จะเป็นบวกต่อดัชนีเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ควรระวังแรงขายทำกำไรตามสัญญาณเทคนิคหลังดัชนียังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,680 จุด

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • กลุ่มพลังงาน (PTTEP, TOP) อานิสงส์ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเหนือ 58 US/Barrel
  • กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD, THANI) ได้ประโยชน์ต้นทุนลดลงจากทิศทางดอกเบี้ยขาลง
  • หุ้น Defensive stock AOT, INTUCH, ADVANC, BEM, BTS, BDMS, BCH, CHG, GPSC, BGRIM, TPCH, TTW, CPALL

หุ้นแนะนำวันนี้

  • SPA (ปิด 13.9 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 15) ได้ Sentiment บวกจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1 ล้านคนได้เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน (SPA มีลูกค้าจีนเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก) และยังได้ผลบวกจาก ครม.มีมติแก้ไขมาตรการ “ชิม ช็อป ใช้” ให้ครอบคลุมสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจสปา
  • TMB (ปิด 1.56 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 1.9 บาท) ทยอยสะสมเพื่อรับสิทธิ์ในการเพิ่มทุนหรือได้หน่วย TSR (1.39 หุ้น TMB : 1 TSR) คาดการควบรวมจะช่วยเพิ่ม Synergy ให้กับ TMB โดยใช้จุดเด่นของทั้ง 2 ธนาคาร โดย TMB มีจุดเด่นจากความแข็งแกร่งของฐานเงินฝากดอกเบี้ยต่ำ ขณะที่ TBANK เด่นในการสร้างผลตอบแทนผ่านการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อซึ่งให้ดอกเบี้ยสูง คาดว่าจะช่วยเพิ่ม NIM ให้ New TMB เพิ่มขึ้น

บทวิเคราะห์วันนี้

-

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.716% คาดกดดัน Sentiment การลงทุนในหุ้นกลุ่ม Defensive ต่อเนื่องไปอีกในระยะนี้: ความกังวัลเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ในตลาดพันธบัตรผลักดันให้นักลงทุนเริ่มลดความเสี่ยงจากการลงทุนในพันธบัตรส่งผลให้ราคาลดลงขณะที่อัตราผลตอบแทนเริ่มฟื้นตัวโดยล่าสุด Bond yield 10 ปีของรัฐบาลสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.716% สูงสุดในรอบกว่า 1 เดือน นับเป็น Sentiment ลบต่อการลงทุนในหุ้นกลุ่ม Defensive (Fixed Income และ High dividend) จึงเป็นไปได้ที่หุ้นในกลุ่มดังกล่าวโดยเฉพาะกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้าจะถูกขายทำกำไร อาทิ กลุ่มโรงไฟฟ้า, สื่อสาร, Infrastructure fund และ REIT และอาจจะเห็นเม็ดเงินการลงทุนโยกไปหากลุ่มที่เสียประโยชน์ในช่วงก่อนหน้าและราคายัง Laggard อาทิ กลุ่ม ธนาคาร, ประกัน และ กลุ่ม Global play
  • (+) กลุ่มท่องเที่ยว – จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น yoy ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3, นักท่องเที่ยวจีนพุ่งแตะระดับ 1 ล้านคนเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน: วานนี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯประกาศตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยเดือน ส.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.4 ล้านคนเพิ่มขึ้น 5.6%yoy นับเป็นการเพิ่มขึ้น yoy ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 แรงหนุนหลักมาจากนักท่องเที่ยวจีนและอินเดียที่เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่กลับมาเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.002 ล้านคนเพิ่มขึ้น 15.6%yoy นับเป็นการเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1 ล้านคนได้เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน เป็นบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยวโดยตรง อาทิ AOT, MINT, CENTEL, ERW และ SPA โดยเราเลือก AOT, MINT และ ERW เป็น Top pick ของกลุ่ม
  • (+) ครม.อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดที่ 2 ตามคาด และมีมติแก้ไขมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว “ชิม ช็อป ไช้” ให้ครอบคลุมสินค้าและบริการที่กว้างขึ้น: ที่ประชุม ครม.มีมติอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดที่ 2 ตามที่คณะกรรมการ BOI เสนอ ส่วนใหญ่เน้นกระตุ้นการลงทุนใน EEC Project อาทิ ให้สิทธิลดหย่อนภาษี 50% ในช่วง 5 ปีแรก สำหรับโครงการลงทุนที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ครม.ยังมีมติให้แก้ไขมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว “ชิม ช็อป ไช้” ให้ครอบคลุมสินค้าและบริการที่กว้างขึ้น อาทิ สนับสนุนเงินชดเชย 15% ของยอดจ่ายจริงแต่ไม่เกิน 4,500 บาทต่อคน จากเดิมครอบคลุมเฉพาะ ค่าอาหาร, เครื่องดื่ม, ที่พัก, สินค้าท้องถิ่น และร้านธงฟ้า โดยให้เพิ่มสินค้าและบริการต่อเนื่องจากการท่องเที่ยว เช่น สปา ค่าเช่าพาหนะ และ ค่าบริการนำเที่ยวเพิ่มเติม ถือเป็นบวกต่อ SENTIMENT การลงทุนของ SPA และ ASAP