นายกฯไม่ตอบ 'รมช.ธรรมนัส' ปมอดีต-ติดคุกออสซี่ 4 ปี

นายกฯไม่ตอบ 'รมช.ธรรมนัส' ปมอดีต-ติดคุกออสซี่ 4 ปี

"พล.อ.ประยุทธ์" หน้าบูดอารมณ์เสีย ไม่ตอบปมสื่อออสซี่แฉ "ร.อ.ธรรมนัส" รมช.เกษตรฯ อดีตฉาวติดคุก 4 ปี

เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 62 เวลา 09.00 น.​ ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)​ เป็นที่น่าสังเกตว่าก่อนการประชุมพล.อ.ประยุทธ์มีสีหน้าเคร่งเครียดและอารมณ์ไม่ดีนัก คาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องที่สื่อออสเตรเลียเปิดข้อมูล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ พัวพันคดีขนเฮโรอีนและต้องโทษจำคุก 4 ปี ทั้งนี้​ เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงประเด็นดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบคำถามและมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด

นอกจากนี้ ก่อนการประชุม ครม. นายเทวัญ ลิปตพัลลภ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)​ นำเสนอผลการปฏิบัติงานในการคุ้มครองผู้บริโภคด้านโฆษณา​ มาตรการในการแก้ไขปัญหาด้านอสังหาริมทรัพย์และรถยนต์ การตรวจฉลากสินค้าจัดทำฉลากเป็นเท็จหรือเกินความจริงรวมทั้งการตรวจค้นจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า บารากุ และสินค้าอันตรายที่มีคำสั่งห้ามขาย และได้นำเสนอโครงการ “สคบ. งดพลาสติก หิ้วปิ่นโต โชว์ถุงผ้า” ซึ่งเป็นโครงการที่เจ้าหน้าที่ สคบ. ร่วมกันรณรงค์ซื้อสินค้าไม่รับถุงพลาสติก ใช้ปิ่นโต และถุงผ้าในการบรรจุอาหารเพื่อช่วยลดปัญหาขยะพลาสติกที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเพื่อเป็นตัวอย่างให้ข้าราชการทุกหน่วยงาน โดยนายเทวัญ ได้มอบปิ่นโตและถุงผ้า สคบ. ให้แก่นายกฯ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนงดพลาสติก หิ้วปิ่นโต โชว์ถุงผ้าอย่างกว้างขวางต่อไป

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอความร่วมมือ​จากทุกภาค​ส่วน​ให้ช่วยกันเพื่อที่ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น​ ทุกคนต้องช่วยกันแก้ปัญหา​ จากนั้น​ นายกฯได้กล่าวกับนายเทวัญ​ว่า​ ขอให้ไปดูในโซเชียล​ด้วยเพราะมีหลายเรื่อง​ มีปัญหาหลายด้าน​หลายอย่าง​ รัฐบาลเองก็พยายามทำอย่าง​เต็ม​ที่ แต่พอรัฐบาลทำเต็มที่ก็จะมีเรื่องกระจ๊อกกระแจ๊ก น่าเบื่อ​เข้ามาอีก​ พร้อมกับกล่าวกับเจ้าหน้าที่​ว่า​ วันนี้ต้องทำงานเพิ่มอีกหลายเท่า​ รวมทั้งเรื่องโซเชียล​ต้องเร่งแก้ไข​ เพราะมันออกไปแล้วคนเชื่อทันที​

ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำชุดสุขภาพวัยทำงาน 10 package ‘ปลอดภัยดี สุขภาพดี งานดี มีความสุข ในสถานประกอบการ’ มาแสดงโชว์ต่อนายกฯ กระตุ้นวัยทำงานดูแลสุขภาพตนเอง สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งจากข้อมูลการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยของมหาวิทยาลัยมหิดล โดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2557 พบว่า ประชากรวัยทำงาน ร้อยละ 9 เป็นโรคเบาหวาน ร้อยละ 25 เป็นความดันโลหิตสูง ผู้หญิง ร้อยละ 55 และผู้ชาย ร้อยละ 42 มีภาวะน้ำหนักเกินและอ้วน ผู้หญิง ร้อยละ 20 และผู้ชายร้อยละ 19 มีกิจกรรมทางกาย ไม่เพียงพอ เป็นปัญหาสุขภาพวัยทำงานที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยมีประชากรวัยทำงาน อายุ 15 - 59 ปี ประมาณ 56 ล้านคน หรือ 2 ใน 3 ของประชากรทั่วประเทศ จึงต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาประชากรกลุ่มนี้ในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้คนวัยทำงาน มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีจากการทำงาน

นายกฯกล่าวว่า ที่ทำนั้นดีแล้ว​ แต่​ต้องพยายามลดโรคที่เป็นโรคติดต่อเรื้อรังลง​ อีกทั้งในการทำงานต้องชี้แจงและทำความเข้าใจว่าเรากำลังทำอะไรอยู่บ้าง​ รวมทั้งต้องสร้างความเข้า​ใจกับหน่วยงานรัฐว่าเราจะทำงานร่วมกันอย่างไร​ "จะได้ลดข่าวที่เป็นข่าวกระพี้ๆลง​ ถามกันให้อารมณ์​เสียอยู่เรื่อย"