'พรรคร่วม' ผลงานนำห่างหลายขุม!!!

'พรรคร่วม' ผลงานนำห่างหลายขุม!!!

ท่ามกลางสถานการณ์น้ำท่วมที่รัฐบาลกำลังสาละวนกับการลงพื้นที่แก้ปัญหา ขณะที่ประเด็นการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนก็ดูจะหน่วงรัฐบาลไม่น้อย โดยเฉพาะกับ พรรคพลังประชารัฐ จนดูไม่มีสมาธิสร้างผลงานสักเท่าไหร่

ต่างจาก ประชาธิปัตย์ ที่ถือว่าเก๋าเกมการเมือง เดินหน้าโกยแต้มต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงฟอร์มครม. ที่สามารถต่อรองจนได้ครองเก้าอี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ที่สำคัญสามารถผลักดันนโยบายหลักของพรรคอย่าง ประกันราคาพืชผลทางการเกษตร ได้สำเร็จตามสัญญาที่หาเสียง

ถึงจังหวะนี้ ประชาธิปัตย์ ก็ได้เวลาทวงถามสัญญาตามเงื่อนไขเข้าร่วมรัฐบาล อย่างการ แก้รัฐธรรมนูญ เรียกร้องให้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขเรื่องนี้ * เรียกว่า ประชาธิปัตย์ เดินหมากแต่ละตา หวังเข้าฮอสทั้งนั้น

 ส่วน ภูมิใจไทย ที่ชูเรื่อง กัญชาเสรี ที่กำลังเป็นรูปเป็นร่างเข้าไปทุกวัน ล่าสุด การให้ประชาชนปลูกกัญชาได้บ้านละ 6 ต้นนั้น กำลังอยู่ในขั้นตอนรับฟังความเห็น

ขณะที่ พลังประชารัฐ แทบจะยังไม่เห็นอะไรที่ใหม่ จะมีก็ต่อยอดจากของเดิมที่รัฐบาลก่อนทำมาเช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ คืนโฉนดที่ดิน หรือ แจกเงินให้คนเที่ยว เป็นต้น ส่วนนโยบายที่ใช้หาเสียงอย่าง ค่าแรงขั้นต่ำ 400-มารดาประชารัฐ-ลดภาษีบุคคลธรรมดาลงทุกระดับ ร้อยละ10 - ใช้ AI แก้ปัญหารถติดกทม. - นโยบาย 50 เขต 50 สวนสาธารณะ เหล่านี้แทบจะยังไม่เห็นอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

ประเด็นค่าแรงขั้นต่ำ เมื่อโดนทวงถาม ก็บอกแค่ว่าเป็นเรื่องของไตรภาคีไปพิจารณาตกลงร่วมกัน และหากจะปรับก็ให้เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปในจังหวัดที่มีความพร้อม ผู้ใช้แรงงานเองก็ต้องพัฒนาฝีมือแรงงานควบคู่ไปด้วย แต่ที่สำคัญคือ กระทรวงแรงงาน ไม่ได้เป็นโควตาของ พลังประชารัฐ มีหรือที่พรรคร่วมจะทำนโยบายคนอื่นให้

หรือนโยบายลดภาษี 10 เปอร์เซ็นต์ พอมีการทวงสัญญา อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กลับบอกว่า สิ่งที่พรรคเสนอไม่ได้พูดถึงการลดภาษีโดยตรง แต่พูดว่าถึงเวลาที่น่าจะทบทวนโครงสร้างภาษีของประเทศ เพราะมีความเหลื่อมล้ำ มีอัตราจัดเก็บที่ห่างกันพอสมควร

ทั้งที่ตอนหาเสียงพูดเสียงดังฟังชัด ยืนยัน ว่า นโยบายของพรรคทำได้แน่นอน ทำได้จริงเพราะศึกษามาแล้วและทำได้ทันที หากเราเป็นรัฐบาล 

เลยไม่รู้ว่ากลายเป็นเรื่องโอละพ่อไปได้อย่างไร หรือตอนหาเสียงต้องเอาเร้าใจเข้าว่า แบบนี้คงมีไม่น้อยที่รู้สึกเสียดาย เผลอๆ คงอดคิดไม่ได้ว่าถ้ารู้อย่างนี้คงปันใจให้คนอื่นดีกว่าหรือไม่