ผ่าบิ๊กโปรเจค “โฟร์โนล็อค” ปั้น T-pop ทีมชาติเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ดันจีดีพี

ผ่าบิ๊กโปรเจค “โฟร์โนล็อค” ปั้น T-pop ทีมชาติเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ดันจีดีพี

กว่า 12 ปี ของ“โฟร์โนล็อค”(4NOLOGUE)บนโลกธุรกิจ ภาพจำที่ผู้บริโภค คนในแวดวงเอเยนซี อีเวนท์ โชว์บิซ วงการบันเทิง คือการเป็นผู้จัดคอนเสิร์ต นำเข้าศิลปินเกาหลีระดับ “ท็อป” มาจัดแสดง มีทติ้ง เจอะเจอแฟนคลับในเมืองไทย จนทำเงินได้หลาย “ร้อยล้านบาท”

ในฐานะคนทำงานคลุกคลีกับศิลปินที่มีผลงานและมาตรฐานระดับ “อินเตอร์เนชั่นแนล” ย่อมมี “คำถาม” คาใจตัวเองว่าแล้วประเทศไทยล่ะ ทำให้ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทซุ่มปลุกปั้น“ทีมชาติเอ็นเตอร์เทนเมนต์”ชิมลางโปรเจค“ไนน์บายนาย”(9x9)ราว 2 ปี ดึงศิลปิน นักแสดง 9 คน จากค่ายต่างๆ ทั้งโฟร์โนล็อค นาดาว บางกอก ช่อง 3 และแกรมมี่ เช่น ชัยธนภพ ลีรัตนขจร ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ จักริน กังวานเกียรติ และวชิรวิชญ์ อรัญธนวงศ์ฯ มาปั้นเป็น“Influencer of Influencer”

ผู้ทรงอิทธิพลดังกล่าว ต่างจากบรรดาอินฟลูเอ็นเซอร์บนโลกออนไลน์ทั่วไป เพราะอนุวัติวิเชียรณรัตน์ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โฟร์โนล็อค จำกัด บอกว่า การสร้าง“Influencer of Influencer”เป็นกระบวนการเปิดทางให้ “ผู้บริโภค” มีส่วนร่วมในการสร้างความสัมพันธ์กับศิลปิน มากกว่าการดึงแค่คนดังบนโลกออนไลน์มาปั้นเท่านั้น

อีกประเด็นคือการตอบโจทย์การตลาด ซึ่งมองว่าในโลกการตลาดที่ลูกค้าต้องการคำตอบที่ใช่! ที่สุด แล้ววันนึงค้นพบว่าไม่มีคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าหรือผู้บริโภค จึงตัดสินใจสร้าง “ตัวเลือก” หารือสร้างคำตอบนั้นขึ้นมาเองด้วย Passion

“เราค้นพบว่านี่ไม่ใช่แค่มิวสิคมาร์เก็ตติ้งแต่เรากำลังสร้างผู้นำในเชิงวัฒนธรรมที่สามารถสร้างสรรค์Engagement Marketingได้อย่างมหาศาล”

สำหรับโปรเจคไนน์บายนาย ไม่ใช่แค่การทำเพลง แต่โรดแมพเรียกว่าทำครบทุกแพลตฟอร์มตั้งแต่การออนแอร์ ออนไลน์ ออนกราวน์ ฯ ครบวงจร โดยคอนเทนท์แรกที่ปูทางให้อินฟลูเอ็นเซอร์ทั้ง 9 คน มีตั้งแต่ทำเพลง 3 เพลง แต่สามารถจัดคอนเสิร์ตใหญ่ที่อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี บัตรราคาตั้งแต่ 1,500-4,900 บาท มีละคร“เลือดข้นคนจาง”ทางทีวี จนดังทั่วบ้านทั่วเมืองเกิดแฮชแท็ก #ใครฆ่าประเสริฐ ถือเป็นการ “เคาะประตูบ้าน” กลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัย แม้ว่าคนดูวัยรุ่น วัยทำงานจะชื่นชอบละคร แต่เชื่อว่า “ทุกบ้าน” จะต้องหยิบเรื่องนี้ไปพูดคุยกัน นอกจากนี้ยังออกอากาศซ้ำ(รีรัน)ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง “ไลน์ทีวี” เป็นต้น

โรดโชว์ไปยังโรงเรียนต่างๆ คือกลยุทธ์สานต่อความดังให้อินฟลูเอ็นเซอร์ทั้ง 9 โดยโรงเรียนเป้าหมายเป็น“โรงเรียนหญิงล้วน”เท่านั้น เพราะหนุ่มๆหน้าตาดี จะเรียกกรี๊ด!สร้างฐานแฟนคลับได้เพียบ!! ทุกสิ่งที่ทำนั้น อนุวัติ ย้ำว่า “ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่ทุกอย่างถูกวางแผนไว้ล่วงหน้าอย่างแยบยล”

โปรเจคไนน์บายนาย ลงทุนราว 120 ล้านบาท วางตำแหน่งเป็น “พรีเมี่ยม” ทำให้เผชิญภาวะ“ขาดทุน”เพราะแพ็คเกจที่บริษัทขายให้กับลูกค้าแบรนด์ต่างๆ ค่อนข้าง “แรง” อยู่ที่ 15-40 ล้านบาท แต่สามารถทำการตลาดได้ครบวงจร มีลูกค้าหนุนหรือเป็นสปอนเซอร์ราว 4 ราย จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 8 ราย แต่ภาพรวม “อนุวัติ” บอกว่า ทำเงินได้ปริ่มๆต้นทุน และโปรเจคดังกล่าวถือว่าสิ้นสุดแล้ว

ล่าสุดบริษัทเตรียมปั้นโปรเจคใหม่ซึ่งจะเปิดตัว 17 ก.ย.นี้ ไฮไลท์คือการดึง 4 ศิลปิน ได้แก่เจมส์ธีรดนย์,เติร์ด-ลภัส,ปอร์เช่-ศิวกรและแจ็คกี้-จักรินซึ่งมาจากช่อง 3 นาดาว โฟร์โนล็อค และแกรมมี่มาร่วมงานเช่นเดิม ทว่า เป้าหมายครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นแค่Influencer of influencerแต่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมเพราะอนุวัติต้องการสร้าง“Thailand-pop : T-Pop”ให้เป็น“ทีมชาติเอ็นเตอร์เทนเมนต์”เพื่อส่งออกไปทำเงินในต่างประเทศเฉกเช่นศิลปินเกาหลีหรือ K-pop บ้าง

การสร้างทีมชาติเอ็นเตอร์เทนเมนต์อนุวัติไม่ได้มุ่งจะแข่งขันกับแดนโสมขาว แต่กลับนำประสบการณ์ องค์ความรู้ที่ทำงานร่วมกับทีมงานเกาหลีมาช่วยบ่มเพาะเต็มที่ เพราะหากพูดถึงศิลปิน K-pop ปัจจุบันต้องยอมรับมาตรฐานติดระดับโลกเรียบร้อยแล้ว

“โปรเจคใหม่ไม่อยากให้เป็นเหมือนไนน์บายนายเพราะเราคาดหวังให้ทำตลาดได้ระดับอินเตอร์เนชั่นแนลไม่ใช่แค่ชิ้นงานโลคัลที่สำคัญเราอยากให้T-popทำรายได้ให้กับประเทศซึ่งวันหนึ่งโฟร์โนล็อคต้องการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนมูลค่าทางเศรษฐกิจหรือจีดีพีของประเทศ”