จีบ5บริษัทชั้นนำตุรกี ลุยอีอีซีวางฐานฮับซีแอลเอ็มวี

จีบ5บริษัทชั้นนำตุรกี ลุยอีอีซีวางฐานฮับซีแอลเอ็มวี

สกพอ.ดึงนักธุรกิจตุรกี 5 บริษัทชั้นนำสาขาพลังงาน ก่อสร้าง เคมีภัณฑ์ ผู้ผลิตรถยนต์และรถรางไฟฟ้า อุตฯป้องกันประเทศ ลงทุนอีอีซีวางฐานศูนย์กลางซีแอลเอ็มวี

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เปิดเผยว่าสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)ได้รับมอบหมายจากนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับบริษัทชั้นนำจากประเทศตุรกีที่ได้นำคณะมาเข้าพบรองนายกรัฐมนตรี และพบกับผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานราชการในไทยเมื่อเร็วๆ นี้

โดยนักธุรกิจและนักลงทุนชาวตุรกีต้องการหาโอกาสลงทุนในไทยโดยเฉพาะในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เนื่องจากตุรกีมองว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค CLMVT สามารถใช้ไทยเป็นฐานในการลงทุนและขยายการลงทุนหรือส่งสินค้าต่อไปยังประเทศใกล้เคียงได้

“การลงทุนทั้งแบบทางตรงและให้เราหาพาร์ทเนอร์ให้ โดยสาขาที่สนใจมาลงทุนในอีอีซี ซึ่งได้มีการนำคณะนักธุรกิจไปดูพื้นที่อีอีซีแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา”

สำหรับบริษัทชั้นนำของตุรกีที่สนใจเข้ามาลงทุนในอีอีซี ได้แก่ 1.บริษัท Roketsans ติดอันดับ 100 บริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของโลก 2.บริษัท Ronesans Group เป็นบริษัทก่อสร้างขนาดใหญ่อันดับ 9 ของยุโรป และอันดับที่ 36 ของการจัดอันดับบริษัทก่อสร้างนานาชาติขนาดใหญ่ โดยมีรายได้กว่า 4.2 พันล้านดอลลาร์

3.บริษัท Kareks Energy บริษัทผู้ส่งออกและพัฒนาผลิตภัณฑ์พลาสติก และเคมีภัณฑ์มากกว่า 20 ปี 4.บริษัท Akfen Holding โดยบริษัทนี้ลงทุนในธุรกิจหลากหลายสาขา เช่น ธุรกิจท่าเรือโดยบริหารท่าเรือ Mersin อสังหาริมทรัพย์ เหมืองแร่ และธุรกิจก่อสร้าง
และ 5.บริษัท Bozankaya เป็นบริษัทชั้นนำในการผลิตยานพาหนะไฟฟ้า ทั้งรถเมล์ และรถราง ที่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยบริษัทนี้ได้ชนะการประมูลการผลิตรถไฟฟ้าสายสีเขียวในประเทศไทยมูลค่า 40 ล้านยูโร ในปี 2559 ที่ผ่านมา