การเก็งกำไรเน้นหุ้นที่ลงมามาก และไม่ไล่ราคา หลัง SET ฟื้นใกล้เป้า 1670-1690 จุด

หุ้นอังกฤษปรับลดลงเนื่องค่าเงินปอนด์กลับมาแข็งค่าจากการลงมติล่าสุด ที่ช่วยปิดความเสี่ยงของการออกจากยุโรปโดยไม่มีข้อตกลง (no-deal Brexit) ขณะที่หุ้นยุโรปอื่นรวมถึงสหรัฐฯ ปรับขึ้น จากการที่สหรัฐฯ-จีน เห็นพ้องที่จะมีการเจรจาการค้ารอบใหม่ช่วงต้นต.ค. ซึ่งช่วยทำให้บรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงปรับดีขึ้น ขณะที่น้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังสำรองน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลงมากกว่าที่คาด อย่างไรก็ตามเรายังคงมองราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวได้ในกรอบจำกัด จากตัวเลขเศรษฐกิจที่ชะลอลง และโอกาสปรับลดกำลังการผลิตลงต่อเนื่องที่จำกัดมากแล้ว ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวยังส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากน้ำมันทรงตัว

ระวังความผันผวนช่วงสั้นของหุ้นปลอดภัย การฟื้นตัวของสินทรัพย์เสี่ยง ทำให้มีแรงทำกำไรสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ ที่ปรับลดลง 34 เหรียญฯ ในวันเดียว ทั้งนี้ของราคาทองคำที่มีโอกาสปรับฐาน และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่มีโอกาสฟื้นตัวช่วงสั้น มีโอกาสสร้างความผันผวนต่อกลุ่มหุ้นปลอดภัย อาทิ ไฟฟ้า กองทุนโครงสร้างฟื้นฐานและกอง REIT นักลงทุนจึงควรเพิ่มความระวัง ไม่ไล่ราคา

คาดการเก็งกำไรกนง.ลดดอกเบี้ย จะเป็นบวกกับกลุ่มการเงิน โอกาสผ่อนคลายนโยบายการเงินจากการประชุมธนาคารกลางยุโรป (12 ก.ย.) และธนาคารกลางสหรัฐฯ (18 ก.ย.) และความยืดเยื้อของสงครามการค้า คาดเป็นแรงกดดันให้กนง.อาจต้องพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมในการประชุม 25 ก.ย.นี้ ซึ่งจะกดดันต่อส่วนต่างดอกเบี้ยรวมถึงราคาหุ้นกลุ่มธนาคาร แต่คาดจะเป็นปัจจัยบวกทางจิตวิทยาต่อหุ้นกลุ่มการเงินและเช่าซื้อ อาทิ SAWAD, MTC, AMANAH, ECL, TK เป็นต้น

เก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุน โดยยังเน้นหุ้นที่ Valuation ถูก หุ้นที่เราชอบ ได้แก่ WHAUP, GUNKUL*, BCPG, EASTW*, BJC*, CPF, TU, GFPT, CPN, NNCL*, MFEC* เป็นต้น // เก็งกำไร นิคมอุตสาหกรรม WHA, AMATA / หุ้นเล็ก AQUA*, EPCO*, VL* / เดินเรือ TTA*, PSL* / การสนับสนุน B10 ดีต่อ GGC, AIE และ EA

ภาพรวมกลยุทธ์: คาดตลาดแกว่งตัว 1660-1678 จุด เน้นเลือกหุ้นที่มีปัจจัยสนับสนุน กลุ่มที่ปรับตัวลดลงมามากและนักลงทุนมีการถือครองต่ำ มีโอกาสเกิดการฟื้นตัว // หุ้นแนะนำวันนี้ CPN, MINT / เก็งกำไร SAWAD* (เป้า 63, ตัดขาดทุน 56.50), KCE* (เป้า 19, ตัดขาดทุน 17.50)

แนวรับ 1650-1645 จุด / แนวต้าน : 1665-1680 สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

สัมปทานทางด่วน และสัญญาบีทีเอส – มีการอภิปรายกว้างขวาง อย่างไรก็ตามการต่อสัมปทานขึ้นกับการอนุมัติของครม. ซึ่งคาดว่าจะได้รับการอนุมัติทั้ง 2 สัญญา ความผันผวนจากข่าว คาดเป็นโอกาสในการสะสม

รัฐฯมองเศรษฐกิจไทยโตดีในไตรมาส 4/62 – สมคิด จาตุศรีพิทัษ์ รองนายกฯ เชื่อเศรษฐกิจไทยจะเริ่มดีขึ้นในไตรมาส 2/62 จากการเบิกจ่าย Mega projects ที่คาดจะเริ่มทยอยออกมา รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ ก.การคลัง-พาณิชย์ แต่คาดเม็ดเงินอาจเข้าไม่ทันในไตรมาส 3/62

ความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำสุดในรอบ 33 เดือน – ม.หอการค้ารายงานตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ส.ค. อยู่ที่ 73.6 ลดลงจาก 75 ในเดือน ก.ค. ลดต่อเนื่องและต่ำสุดในรอบ 33 เดือน รับปัจจัยกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ-การเมือง

ทอท.จ่อเปิดประมูลดิวตี้ฟรีปลายปี – ทอท.จ่อเปิดดิวตี้ฟรีดอนเมืองในไตรมาส 4/62 ชิงเค้กบริหารพื่นที่ 4 พันตารางเมตร สัมปทาน 10 ปี ขณะที่พิคอัพเคาน์เตอร์สุวรรณภูมิ-ดอนเมืองเตรียมคลอดทีโออาร์กลางปีหน้า

ประเด็นติดตาม: 6 ก.ย. – ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ / EU GDP 2Q62, 12 ก.ย. – ECB meeting, 18 ก.ย. – FOMC meeting

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)