สงครามการค้าคลี่คลาย

สงครามการค้าคลี่คลาย

ดัชนีวานนี้ปิดปรับตัวขึ้นแรง ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ โดยได้แรงหนุนจากสถานการณ์ที่ประเทศฮ่องกงเริ่มคลี่คลายลง

ประกอบกับ จีน-สหรัฐ เตรียมเจรจากันอีกครั้งในเดือน ต.ค. นอกจากนี้ ดัชนียังได้แรงหนุนจากกลุ่ม ENERG ที่ปรับตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน WTI ที่พุ่งขึ้นกว่า 4% ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,669.79 จุด (+11.15 จุด +0.67%) Volume 6 หมื่นลบ. ต่างชาติ -141.59 ลบ. TFEX Net +14,433 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ +1,191 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 372.68 จุด +1.41% ขานรับข่าวสหรัฐและจีนยืนยันจัดการประชุมเพื่อเจรจาการค้ารอบใหม่ในเดือนหน้า และ ADP เผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน เกือบ 195,000 ตำแหน่ง

+สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานในเดือนก.ค. +1.4% มากกว่าคาดที่ระดับ 1%

+ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 95% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 17-18 ก.ย. ขณะที่มีโอกาส 5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50%

+ ลุ้นที่ประชุมครม.เศรษฐกิจออกมาตรการกระตุ้นการลงทุนและการส่งออก

+ Fund Flow ต่างชาติมีสถานะซื้อ YTD 4.5 พันลบ. ค่าเงินบาท 30.68 บาท/US

+/-ISM เผยดัชนีภาคบริการสหรัฐในเดือนส.ค.ดีดตัวแตะระดับ 56.4 จากระดับ 53.7 ในเดือนก.ค. มากกว่าคาด แต่สวนทางกับที่มาร์กิตเผยว่าร่วงลงสู่ระดับ 50.7 ต่ำสุดนับตั้งแต่มี.ค.2559

+/-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดบวกเล็กน้อย 4 เซนต์ +0.07% ปิดที่ 56.30 ดอลลาร์/บาร์เรล แม้ EIA เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาด นลท.ยังคงกังวลว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

ม.หอการค้าฯ เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ส.ค. ปรับลงต่อเนื่องสู่ 73.6 ต่ำสุดรอบ 33 เดือน จากความกังวลศก.-การเมือง

*จับตาสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค. และ EU เผย GDP ไตรมาส 2 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) และครม.เศรษฐกิจหารือมาตรการกระตุ้นการลงทุน-การส่งออก

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อตามทิศทางตลาดโลก โดยมีปัจจัยหนุนจากการที่สหรัฐ-จีนเตรียมจัดการเจรจาการค้ารอบใหม่ในเดือนต.ค. ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี กลับมาสูงกว่าอายุ 2 ปีคาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,665-1,680 จุด

หุ้นรายงานพิเศษ

LIT Analyst Meeting คงคำแนะนำซื้อ ราคาเหมาะสม 6.50 บาท

+ แนวโน้มผลประกอบการ 2H62 ดีกว่า 1H62 ตามปัจจัยฤดูกาล กำไรมีแนวโน้มสูงสุดรายไตรมาสใน Q3 และยังรักษาสถิติกำไร all time high ทุกปี

+ โอกาสเติบโตจากการเพิ่มสัดส่วนงานภาครัฐที่มีความเสี่ยงต่ำและงาน project finance ที่มี yield สูง

+/- แม้ %NPL สูงขึ้นจากปีก่อน ปลาย มิ.ย. 62 มี %NPL เท่ากับ 12.79% เทียบกับ 10.39% ณ ปลายปี 61  แต่ NPL มีแนวโน้มลดลงจากแผน write-off ประจำปีใน Q3

+ คงประมาณกำไรปี 62 ตามเดิมที่ 158 ล้านบาท เติบโต 6% โดย 1H62 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 68.88 ล้านบาทคิดเป็น 44% ของประมาณการทั้งปี บนสมมติฐานรายได้เติบโต 16% และคชจ.สำรองหนี้สูญ 80 ล้านบาทซึ่งสูงกว่าสมมติฐานของผู้บริหารที่ระดับ 70 ล้านบาท

 

กลยุทธ์การลงทุน

หุ้น Defensive Stock (EASTW TTW BCH CPALL BJC) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ (ERW CENTEL AOT BJC CPALL TNP) หุ้น Domestic Play (ADVANC AMATA EKH SISB HMPRO) เก็งกำไรดัชนี BDI สูงสุดในรอบ 9 ปี (PSL TTA)

หุ้นมีข่าว   

·         AIT (Bloomberg Consensus 24.60 บาท)   ประกาศปรับเพิ่มเป้ารายได้ปีนี้แตะ 7,000 ล้านบาท จากเดิมตั้งไว้ 5,000 ล้านบาท หลังตุนแบ็กล็อกแน่น 9,000 ล้านบาท จ่อบุ๊กครึ่งปีหลังกว่า 4,000 ล้านบาท มั่นใจดันกำไรสุทธิปีนี้นิวไฮ แถมรอเซ็นงานเพิ่ม 1,138 ล้านบาท พร้อมรอลุ้นผลประมูลงานใหม่อีก 2,000 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         INET (Bloomberg Consensus - บาท) วางเป้ารายได้ปีนี้โต 35% เน้นขยายฐานลูกค้าใหม่ จากปัจจุบันมี 2,700 ราย พร้อมเน้นมาให้บริการแพลตฟอร์ม และบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         DRT (Bloomberg Consensus 7.00 บาท) โว ผลดำเนินงานช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาส 3/2562 เติบโตน่าพอใจแม้อยู่ในช่วงโลว์ซีซั่น หลังวางกลยุทธ์กระตุ้นตลาดได้ผล แถมเดินเครื่องจักรผลิตสินค้าได้เต็มกำลังถึง 90% (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         GGC (Bloomberg Consensus - บาท) เดินหน้าก่อสร้างโครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ภายใน ต.ค.นี้ คาดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ต้นปี 64 ขณะที่แนวโน้มผลงานครึ่งปีหลังยังสดใส เหตุราคาบี 100 พุ่ง รับแรงหนุนมาตรการรัฐประกาศใช้บี 10 (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         SINGER (Bloomberg Consensus 12.90บาท) ตั้งเป้าปี 2565 ขยายอาณาจักรผุดสาขาแตะ 7,000 แห่ง จากปัจจุบันมีสาขารวมแล้วกว่า 1,051 สาขา ดันพอร์ตสินเชื่อทะลุ 8,000 ล้านบาท ผลักดันรายได้ปี 2565 พุ่ง 7 เท่า จากปี 2562 มั่นใจรายได้ตามเป้าโต 15% (ที่มา ทันหุ้น)

·         HPT (Bloomberg Consensus - บาท)   ลุยขยายฐานฟิลิปปินส์ ลาว ภายในปีนี้ มั่นใจดันยอดขายโต 20-30% จากปีก่อน ที่ 182.62 ล้านบาท จ่อรับทรัพย์บริษัทลูก CHL เข้าเต็มปี แถมออเดอร์ไหลเข้าต่อเนื่อง อวดแบ็กล็อก 40 ล้านบาท เร่งดันมาร์จิ้นพุ่งขึ้น 30% (ที่มา ทันหุ้น)

·         AAV (Bloomberg Consensus 4.18 บาท) เดินหน้าหารายได้เสริม อัพรายได้ 5 ปี แตะ 25% พร้อมเพิ่มความถี่เที่ยวบิน เล็งเปิดเส้นทางใหม่ CLMV-อินเดีย มั่นใจ Load Factor ปีนี้เข้าเป้า 86% สอดรับนโยบายรัฐแจกเงินเที่ยว 1,000 บาท หนุนยอดขนส่งเพิ่มอีก 1% (ที่มา ทันหุ้น)

·         WICE (Bloomberg Consensus - บาท) ชี้สงครามการค้าสหรัฐ-จีนกระทบภาพรวมโลจิสติกส์ พร้อมรับมือป้องกันความเสี่ยงทุกทาง มองเป็นโอกาส หากมีการย้ายฐานผลิตในแถบเอเชีย-เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เร่งขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มงานบริการทุกรูปแบบ มั่นใจปีนี้รายได้โต 25% (ที่มา ทันหุ้น)

·         SAT (Bloomberg Consensus 23.82 บาท) ยิ้มรับออเดอร์ชิ้นส่วนรถยนต์รุ่นใหม่จากสหรัฐ มูลค่า 300 ล้านบาท เริ่มส่งสินค้าและรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 4/2563 เดินหน้าหาลูกค้าใหม่ต่อเนื่อง ประเมินผลงานปีนี้เติบโต 1-2% เผยศึกษาแตกไลน์ธุรกิจใหม่ในอุตสาหกรรมยานยนต์เพิ่ม โบรกส่องผลงานครึ่งปีหลังจะกลับมาเติบโตตามออเดอร์ที่เพิ่มขึ้น (ที่มา ทันหุ้น)