ดีเอสไอลงพื้นที่ แจ้งผลนิติวิทยาศาสตร์เป็นทางการแก่ภรรยา “บิลลี่”

ดีเอสไอลงพื้นที่ แจ้งผลนิติวิทยาศาสตร์เป็นทางการแก่ภรรยา “บิลลี่”

พิณนภากังวลอิทธิพลแทรกแซงการสืบสวน

รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท. กรวัชร์ ปานประภากรและคณะ ลงพื้นที่หมู่บ้านป่าเด็ง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านภรรยาของ “บิลลี่” พอละจี รักจงเจริญ นักเคลื่อนไหวสิทธิชุมชนที่หายตัวไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว และทางดีเอสไอได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนจนพบว่า ได้เสียชีวิตแล้ว หลังจากเจอเศษกระดูกส่วนศรีษะในเขื่อนแก่งกระจาน และนำไปตรวจสารพันธุกรรม

โดยพ.ต.ท. กรวัชร์ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ต้องเดินทางมาพบพิณนภา มาคุยกัน มาถามว่ามีความแคลงใจในการทำคดีของดีเอสไออย่างไรหรือไม่ เพราะว่าสามีเค้าเสียไปแบบนี้ พร้อมนำข้อห่วงใยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและอธิบดีดีเอสไอมาบอกกล่าว

พ.ต.ท ต้องการยืนยันกับพิณนภาด้วยว่า ทางดีเอสไอได้พยายามทำงานอย่างเต็มที่ในการสืบสวนคดี และขอให้คลายความกังวลว่าจะไปช่วยเหลือคนผิด

“ช่วงเวลาที่ผ่านมาเราทำงานค่อนข้างเต็มที่เลย ท่านก็เห็น เราเจอถังน้ำมัน เจอกระดูก ช่วงเวลาที่ผ่านมาก็เป็นกังวลใจที่ว่า คดีที่อยู่กับเรา ถ้าเราไม่ทุ่มเทเต็มที่ ก็จะไม่สำเร็จ” พ.ต.ท. กรวัชร์กล่าว

พ.ต.ท. กรวัชร์กล่าวว่า ที่ผ่านมาใช้หลักพฤติกรรมศาสตร์ ภูมิศาสตร์อาชญากรรมเหมือนกับที่ใช้ที่เอฟบีไอ เอาเข้ามาไล่ดูว่าลักษณะทางคดีจะเป็นยังไงได้บ้าง คือใช้ความน่าเชื่อที่สุด นำไปสู่จุดที่เชื่อว่าน่าจะเป็นจุดนี้ๆ รวมทั้งการใช้แหล่งข่าวจนนำไปสู่การค้นพบหลักฐานสำคัญ

ขณะนี้ ทางดีเอสไอกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมในพื้นที่ และอาจต้องใช้เวลาอีกสักพักในการตรวจพิสูจน์กระดูกที่พบเพิ่ม อีก 8 ชิ้น ที่ในเบื้องต้นยืนยันได้ว่าเป็นกระดูกมนุษย์ จากที่เก็บมาได้อีกประมาณ 20 ชิ้น

สำหรับข้อมูลบุคคลต้องสงสัย ทางดีเอสไอเคยเก็บได้บางส่วนจากที่เคยลงมาทำคดีในช่วงแรก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้และต้องรอความชัดเจนมากกว่านี้ พ.ต.ท. กรวัชร์กล่าว

ในขณะเดียวกัน ทางดีเอสไอเห็นว่าทางภรรยาของบิลลี่มีความลำบาก จึงได้ส่งคนมาดูแลและตอนนี้ได้อยู่ในโครงการคุ้มครองพยานพร้อมกับแม่ของบิลลี่แล้ว พ.ต.ท. กรวัชร์กล่าว

พิณนภากล่าวว่า ทางเธอเป็นห่วงในตัวคดี โดยกลัวว่าจะมีผู้มีอิทธิพลเหนือกว่า ดีเอสไอเข้ามาแทรกแซงคดี ทำให้เจ้าหน้าที่มีทำงานลำบาก ไม่สะดวก

“ก็ขอให้ท่านทำงานได้สะดวกและปลอดภัย และขอบคุณท่านที่ช่วยให้ได้รู้ว่าบิลลี่เสียชีวิตไปแล้ว” พิณนภากล่าวกับพ.ต.ท. กรวัชร์ และกล่าวเพิ่มเติมว่าเธอมีความหวังกับดีเอสไออยู่ และจะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย

“ขอบคุณมากเลย เข้าใจ ก็พยายามจะดูแลทุกอย่าง ที่ผมให้ข้าราชการลงมาดูแล ถ้าเดือดร้อนก็โทรบอกเค้าเลย หรือผมก็จะรับลงมา เป็นห่วงๆ 

“มายืนยันด้วยตัวเอง ว่าจากการที่พบกระดูกในถัง สารพันธุกรรมเข้าได้กับมารดาของคุณพอบะจี ก็มายืนยันด้วยวาจา ด้วยตัวเองกับมือนอ” พ.ต.ท. กรวัชร์ตอบพิณนภา ก่อนจะขอเวลาพูดคุยกับพิณนภาส่วนตัวโดยไม่มีสื่อมวลชนรับฟังราว 20 นาที