นายกฯจี้4ข้อให้ภาครัฐใช้ประโยชน์ดิจิทัล เอื้อไมโครเอสเอ็มอี

นายกฯจี้4ข้อให้ภาครัฐใช้ประโยชน์ดิจิทัล เอื้อไมโครเอสเอ็มอี

"พล.อ.ประยุทธ์" เปิดงาน "ไมโครเอสเอ็มอี อาเซียน" เผยไทยประกาศเป็นวาระแห่งชาติ ตั้งแต่ 2014 ลั่นดันให้สำเร็จปีนี้ แนะ 4 ข้อ ให้ภาครัฐใช้ประโยชน์ดิจิทัล เอื้อผู้ประกอบการ

เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 62 เวลา 09.00 น. ที่ห้องไทยจิตรลดา 1-2 โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนปาร์ค กทม.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีกล่าวเปิดงานและกล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนา “ASEAN MSMEs in the Digital Era: Challenges and Opportunities” ว่า  วันนี้ยินดีที่ได้เป็นเกียรติมาร่วมเปิดการประชุม ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนของอาเซียน ในนามของรัฐบาล ตนเชื่อมั่นว่าผลการประชุมครั้งนี้ จะนำไปสู่การเสนอแนะ นโยบายในการส่งเสริมการใช้ดิจิทัลสำหรับผู้ประกอบการในภูมิภาคที่ยั่งยืนและเป็นรูปธรรม ในส่วนของประเทศไทยได้มีการประกาศเป็นวาระแห่งชาติมาตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งเจตนารมณ์นี้ สอดคล้องกับประเด็นเศรษฐกิจในฐานะที่ไทยเป็นประธานอาเซียน ผลักดันเพื่อให้สำเร็จในปีนี้ โดยแบ่งออกเป็น 3 ด้าน คือการเตรียมความพร้อมของอาเซียนสำหรับการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 การส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาคทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว และการส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจของอาเซียนอย่างยั่งยืนในทุกมิติ โดยในปี 2018 ประเทศไทยมีผู้ประกอบการMicro SME จำนวน 3 ล้านราย มีการจ้างงานประมาณ 14 ล้านคน

นายกฯ กล่าวว่า ดังนั้นในวันนี้เพื่อให้ผู้ประกอบการขนาดใหญ่ ขนาดย่อม และรายย่อย ซึ่งเป็นผู้ประกอบการส่วนใหญ่ในภูมิภาค สามารถเติบโตได้ เราจึงต้องสนับสนุนให้ผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จากดิจิทัลอย่างเต็มที่ สนับสนุนให้เกิดการประสานความร่วมมือระหว่างรัฐและภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีความแข็งแกร่ง โดยการใช้ระบบพี่เลี้ยง และให้คำปรึกษาในด้านต่างๆ รวมถึงการสนับสนุนให้เข้าถึงข้อมูลเข้าถึงตลาด

นายกฯ กล่าวว่า สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยในอาเซียน ภาครัฐควรใช้ประโยชน์จากดิจิทัลที่เอื้อประโยชน์กับผู้ประกอบการ 1. สนับสนุนการเข้าสู่ระบบดิจิทัล โดยอาเซียนได้พยายามสนับสนุนให้วิสาหกิจรายย่อยจดทะเบียนเพื่อเข้าสู่ระบบและลดขนาดของเศรษฐกิจนอกระบบ เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสเข้าเทียมกัน 2.ภาครัฐควรส่งเสริมการพัฒนาระบบนิเวศทางการเงินเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่วิสาหกิจรายย่อย ในการเข้าถึงแหล่งเงิน อาจรวมถึงมาตรการที่ส่งเสริมให้บุคคลและวิสาหกิจรายย่อยเข้าสู่ระบบธนาคารออนไลน์มากขึ้น และใช้เครื่องมือที่เป็นนวัตกรรม

นายกฯ กล่าวว่า 3. ภาครัฐควรส่งเสริมการเข้าถึงบริการในการพัฒนาธุรกิจ ในตลาดโลกที่มีความซับซ้อนมากขึ้น รวมถึงการใช้ประโยชน์จากศูนย์เทคโนโลยีประยุกต์ การริเริ่มเครือข่ายชุมชนเทคโนโลยี หรือแรงจูงใจในการถ่ายโอนความรู้ และ 4.ภาครัฐควรส่งเสริมการพัฒนาทักษะและความรู้ที่เกี่ยวข้องสำหรับประชาชน เพื่อช่วยในการใช้ดิจิทัล เนื่องจากประชาชนที่ต้องการใช้ดิจิทัลจะต้องมีทักษะที่ต่างออกไป การส่งเสริมทักษะดิจิทัลในโรงเรียน มหาวิทยาลัย และการศึกษาตลอดชีวิตจึงเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งนี้กลุ่มประเทศอาเซียนของเราได้ก่อตั้งร่วมกันมากว่า 50 ปี ทุกประเทศพยายามที่จะร่วมมือกันอย่างแน่นแฟ้น ซึ่งความร่วมมือระหว่างประชาคมอาเซียนไม่ได้หยุดอยู่ที่รัฐต่อรัฐ แต่ได้ขยายไปถึงภาคเอกชน เป็นการรวมตัวที่สำคัญ ซึ่งการรวมตัวและร่วมมือกันของภาคเอกชนนี้ จะเป็นกลไกสำคัญให้ประชาคมอาเซียนของเรามีความแน่นแฟ้น และมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันอย่างเป็นรูปประธรรม