VGI - ซื้อ, RS - ซื้อเก็งกำไร

VGI - ซื้อ, RS - ซื้อเก็งกำไร

ผนึกกาลังเสริมความแข็งแกร่ง จาก 2 ผู้ยิ่งใหญ่

เราประเมิน Synergy ที่จะเกิดขึ้นระหว่าง RS และ BTS เป็นไปได้หลายรูปแบบจากด้าน Platform ในมือและฐานลูกค้าที่ต่างกันซึ่งเราประเมินว่าการจับมือกันครั้งนี้จะสร้างฐานลูกค้าถึง 36 ล้านคน สำหรับผลประโยชน์กับ RS คาดจะมีการออกสินค้าในปีหน้าในตลาดที่เป็น Mass มากขึ้น เราประเมินรายได้ส่วนเพิ่มของ RS (บนสมมติฐานเชิงอนุรักษ์นิยม) ในปี 2020 ที่ 630 ล้านบาท และคาดกำไรส่วนเพิ่มที่ 190 ล้านบาท (หรือ 24% จากประมาณการเราปัจจุบัน) ในด้านของ VGI การเข้ามาของ RS (พร้อมกับสื่อ TV,วิทยุ และ ธุรกิจ MPC) จะทำให้ธุรกิจมีความครบวงจรมากขึ้นจากที่มีทั้ง สื่อ OOH (MACO และ PLANB), ระบบชำระเงิน (RLP) และการขนส่ง (Kerry) เราปรับเพิ่มคำแนะนำสำหรับ RS จาก ถือ เป็น ซื้อเก็งกำไร ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ที่ 19.80 บาท อิงค่า PER ที่ 44 เท่า (สูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวอยู่ 2.5 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน)

BTS + RS = Hobbs & Shaw

เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา BTS ประกาศว่าได้ซื้อหุ้นสามัญจำนวน 68 ล้านหุ้น (คิดเป็น 7% ของหุ้นที่ชำระแล้วของ RS) จากผู้ถือหุ้นเดิม (เป็นหุ้นส่วนใหญ่จาก คุณสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ และคุณโสรัตน์ วณิชวรากิจ) โดยเราคาดผลประโยชน์ร่วมที่จะเกิดขึ้นดังนี้ 1) ความร่วมมือด้านการจัดการทรัพยากร รวมถึงการใช้ประโยชน์ร่วมจากระบบและเทคโนโลยี, การประหยัดขนาดและลดต้นทุน, 2) การทำการตลาดร่วม, การขายแบบ crossselling หรือการโฆษณาผ่านสื่อภายใต้แพคเก็จเดียวกันเพื่อความหลากหลายและครอบคลุมในทุกสื่อ, 3) โมเดลรายได้รูปแบบใหม่สำหรับธุรกิจ MPC ของ RS และธุรกิจในเครือของ BTS และ 4) สร้างพลังความแข็งแกร่งของ big data จากฐานข้อมูลที่ใหญ่ขึ้น

สร้างฐานลูกค้าขนาดใหญ่มากกว่า 36 ล้านคน

แพลตฟอร์มของ RS และพาร์ทเนอร์ (ช่อง 8, ไทยรัฐทีวี และ Cool radio) มีฐานผู้ชม/ผู้ฟังมากกว่า 20 ล้านคน/วัน โดยประมาณ 80% เป็นฐานลูกค้าต่างจังหวัดและมีอายุ 35 ปีขึ้นไป ในขณะที่ BTS มีฐานข้อมูลกว่า 20 ล้านคน/วัน เป็นคนกทม. (ประมาณ 80%) ,มีอายุราว 20 ปีขึ้นไป ดังนั้น การทับซ้อนกันของฐานข้อมูลค่อนข้างน้อย การเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของ BTS ร่วมกับ RS จะเป็นการสร้างฐานข้อมูลลูกค้ามากกว่า 36 ล้านคน(อิงสมมติฐาน 50% ของฐานลูกค้าต่างจังหวัดของ BTS ทับซ้อนกับของ RS และ 50% ของฐานลูกค้าในเมืองของ RS ทับซ้อนกับลูกค้าของ BTS)

ผลประโยชน์ร่วมที่เกิดขึ้นเป็นตัวเร่งการเติบโตของ RS

จากข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ของลูกค้าที่แตกต่างกัน เรามองว่าธุรกิจ MPC ของ RS จะเข้าสู่ตลาด mass และตลาดนักท่องเที่ยวมากขึ้น (โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนผ่าน V-Click ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง VGI และ i-Click) รวมทั้ง RS มีโอกาสที่จะโฆษณาสินค้าผ่านสื่อนอกบ้านภายใต้โมเดลรูปแบบใหม่ (เช่น ส่วนแบ่งรายได้) ฐานข้อมูลที่ใหญ่ขึ้นจะเป็นสิ่งสาคัญสาหรับบริษัทที่จะสร้างความแข็งแกร่งในการขายและสร้างแบรนด์ในตลาดใหม่ นอกจากนี้ดีลดังกล่าวอาจจะช่วยลดต้นทุนค่าขนส่ง (โดยผ่านการเป็นพาร์ทเนอร์กับ Kerry ในทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่ง 90% ของสินค้า RS ดาเนินการขนส่งโดย Kerry)

คาดกำไรส่วนเพิ่ม 24% ในปี 2563 สำหรับ RS

เราคาด RS จะเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างน้อย 4 ผลิตภัณฑ์สู่ตลาด mass ในปีหน้า (1 สินค้า/ไตรมาส) เราคาดการณ์เชิงอนุรักษ์นิยมสำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าใหม่นี้ 1% จากฐานลูกค้าทั้งหมด (360,000 คน) และราคาเฉลี่ยที่ 700 บาท (เทียบกับราคาเฉลี่ยของสินค้าเดิมของ RS ที่ 1,900 บาทสำหรับการขายในประเทศ และ 3,000 บาทสำหรับการขายต่างประเทศ) รายได้ส่วนเพิ่มของ RS จะอยู่ที่ 630 ล้านบาท เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิของรายได้ส่วนเพิ่มที่ 80% และ 30% ตามลาดับ เรามองว่าอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิจะอยู่ในระดับสูง เพราะเป็นสินค้า house brand ของ RS เราประเมินกำไรส่วนเพิ่มสำหรับปี 2563 ของ RS ที่ 189 ล้านบาท หรือ 24% อัพไซด์จากประมาณการปัจจุบันของเรา (ยังไม่รวมผลประโยชน์ร่วมด้านต้นทุน)

เราเชื่อว่า RS จะเทรดในระดับ PER ที่สูงขึ้น จากผลประโยชน์ร่วมจากการบริหารจัดการรายได้และต้นทุน เราคาดว่าราคาหุ้นจะสามารถขึ้นไปเทรดระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 2.5 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (ระดับสูงสุดก่อนหน้านี้) ด้วยค่า PER ที่ 44 เท่า ซึ่งราคาหุ้นจะอยู่ที่ 19.80 บาท

สร้างอาณาจักร VGI

เราเคยกล่าวไปแล้วในรายงาน V-PLAN เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ว่ากลุ่มสื่อมีแนวโน้มรวมตัวกันเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง ซึ่งพันธมิตรทางกลยุทธ์ของ VGI-RS ได้ยืนยันสมมติฐานของเราแล้ว ธุรกิจในเครือของ VGI ประกอบด้วยโฆษณา, การชำระเงิน, และขนส่งธุรกิจคอมเมิร์ชโดยฐานข้อมูลลูกค้าในต่างจังหวัด (รวมทั้งแพลตฟอร์มทีวีและวิทยุ) เป็นส่วนที่ขาดหายไปสำหรับ VGI พันธมิตรทางกลยุทธ์ร่วมกับ RS จะช่วยเติมเต็มจิ๊กซอว์นี้ ตอนนี้ VGI มากกว่าพร้อมที่จะลุยในตลาด e-commerce จากการเติมเต็มชิ้นส่วนที่สาคัญอย่าง ระบบการชำระเงิน (Rabbit LINE Pay), การขนส่ง (Kerry), ด้านโฆษณา (VGI, PLANB, RS, และ MACO), และค้าปลีก (RS). อีกทั้ง VGI ยังสามารถเข้าถึงทีม call center ที่แข็งแกร่งของ RS ได้อีกด้วย