'อนุทิน' ปัดพิษกัญชาโยก 'หมอธเรศ' พ้นเลขาฯอย.

'อนุทิน' ปัดพิษกัญชาโยก 'หมอธเรศ' พ้นเลขาฯอย.

"อนุทิน" ปัดพิษกัญชาโยก "หมอธเรศ" พ้นเลขาฯอย. แม้ชงครม.ย้ายหลังประกาศกัญชา-กัญชงใหม่ออก 4 วัน บอกแค่ "ฟลุก" ย้ำตั้งทุกคนตามความเหมาะสมของตำแหน่ง-งาน ตั้งใจให้ช่วยขับเคลื่อนงานพัฒนาศักยภาพอสม.-ตามทวงผู้รับเหมาหนีงานกว่า 10 ราย

จากกรณีที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบเมื่อวันที่ 3 ก.ย.2562 ให้มีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการสังกัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) 4 ตำแหน่ง ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.)เสนอ ประกอบด้วย 1.นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ จากเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)เป็นอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) 2.นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม รองปลัดสธ.เป็นเลขาฯอย. 3.นพ.ณรงค์ สายวงศ์ ผู้ตรวจราชการสธ.เป็นรองปลัดสธ.และ4.นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ(ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง เป็นรองปลัดสธ. ทั้งนี้ เกิดขึ้นภายหลังจากที่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข และประกาศคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ เกี่ยวกับการปลดล็อกกัญชาและกัญชง(เฉพาะส่วน)ออกจากยาเสพติดให้โทษประเภท 5 มีผลบังคับใช้เพียง 4 วัน

ล่าสุด วันนี้(4 ก.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า เป็นการโยกย้ายปกติสลับหมุนเวียนข้าราชการระดับ 10 เนื่องจากมีรองปลัดสธ.เกษียณ 1 คน และอธิบดี 1 คน จึงมีตำแหน่งว่าง 2 ตำแหน่ง การเสนอแต่งตั้งโยกย้ายเข้าครม.ก็เป็นการรีบทำเพื่อให้งานกระทรวงฯไม่หยุดชะงัก และผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งตำแหน่งใหม่จะได้รู้ตัวกันก่อน และเตรียมตัวในการเข้ารับหน้าที่ในตำแหน่งใหม่

ผู้สื่อข่าวถามว่าการโยกย้ายครั้งนี้ ไม่ได้เป็นผลจากการที่มีประกาศเรื่องกัญชา-กัญชงออกมามีผลบังคับใช้เพียง 4 วันและรมว.สธ.ถูกวิจารณ์อย่างหนักใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องฟลุกๆ ไม่มีอะไร ซึ่งการแต่งตั้งรอบนี้ก็เป็นการตั้งตามตำแหน่งที่ว่างครบหมดแล้ว

ต่อข้อถามถึงเหตุผลที่ปรับย้าย นพ.ธเรศ ไปเป็นอธิบดีกรมสบส. นายอนุทิน กล่าวว่า นพ.ธเรศ เคยเป็นรองอธิบดี สบส. มาก่อน ขณะที่นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม ก็เคยเป็นรองเลขาฯอย.มาก่อนเช่นกัน ก็เป็นการสับเปลี่ยนหมุนเวียนงานตามหน้าที่ ซึ่งกรมสบส.นั้นภารกิจจำนวนมากที่จะต้องขับเคลื่อน ทั้งเรื่องพัฒนาศักยภาพ อสม. ค่าตอบแทน อสม. การให้อสม.เป็นหมอประจำบ้าน และการสนับสนุนการบริการสุขภาพ และเรื่องการจัดการผู้รับเหมาที่หนีงาน ซึ่งนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สธ.ทำสรุปบอกตนมาว่ามีนับ 10 รายจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งถือเป็นงานที่นพ.ธเรศ ต้องร้องจ๊ากแน่นอน แต่ตนเห็นศักยภาพ เพราะเป็นงานที่ต้องไปดำเนินการ

“ขอยืนยันว่า การโยกย้ายครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องกัญชา เพราะเรื่องกัญชาเป็นเรื่องแค่ 1 ใน 20-30 นโยบายรัฐมนตรีว่าการรกระทรวงฯ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า มีรายงานข่าวจากพรรคภูมิใจไทยว่า การโยกย้ายครั้งนี้ เนื่องจากอย.ได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชนน้อย นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีข้อมูลนี้จากพรรค ขอยืนยันว่าไม่ได้มีอะไร เป็นการโยกย้ายปกติเท่านั้น เรื่องการเมืองจะต้องไปฟังพรรค แต่เรื่องกระทรวงสาธารณสุขไม่เกี่ยวกับพรรค

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า การปรับย้ายตำแหน่งนพ.ธเรศ และนพ.ไพศาล ทุกคนมีหน้าที่ เป็นการสลับสับเปลี่ยนตามวาระ หมุนเวียนการทำงานตามภารกิจ ซึ่งนพ.ธเรศ เคยเป็นรองปลัดสธ. และไปเป็นเลขาธิการ อย. ยังไม่เคยมีคำว่า อธิบดีนำหน้า ก็เลยให้มีคำว่าอธิบดีนำหน้า และในอนาคต นพ.ไพศาล ก็เหมือนกัน เป็นรองปลัดแล้ว ไปเป็นเลขาฯอย.แล้ว ก็จะต้องเป็นอธิบดีด้วย เพื่อให้มีโอกาสในการเรียนรู้งานทุกด้าน ทั้งสนับสนุนบริการสุขภาพ การแพทย์ การบริหาร ในอนาคตก็จะได้มีคุณสมบัติในการที่จะแข่งกันเป็นปลัดสธ.

“ยืนยันว่าการแต่งตั้งโยกย้ายเป็นไปตามวาระ แทนคนเกษียณ และเป็นบุคลากรที่ผมคิดว่าเหมาะสม และสามารถทำงานที่เป็นประโยชน์ และเป็นการเรียนรู้งานในทุกๆด้าน แต่ละท่านยังมีอายุราชการอีกตั้ง 3-4 ปี และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะได้มีคุณสมบัติที่เพียบพร้อมในการที่จะเป็นปลัด และสิ่งที่ผมพยายามทำคือ ซี 10 คือ ซี10 ไม่ใช่ซี 10 ต้องเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ หรือสาธารณสุขนิเทศก์เท่านั้นถึงจะโต อย่างผู้ทรงคุณวุฒิยังมาเป็นรองปลัดได้ ผมไม่ได้ทำให้รองปลัดไปเป็นผู้ตรวจฯเลย เพราะฉะนั้นทุกคนได้รับความไว้วางใจให้ทำงานเต็มที่ มีการพูดว่าแต่งตั้งรองปลัดสธ.ใหม่เพราะเป็นสายแพทย์ชนบท ขอกบว่าผมไม่ได้ลูบไปไม่มีหางแล้วตั้ง แต่ดูคุณสมบัติทุกท่าน” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า กรณีการตั้งนพ.ยงยศ เป็นรองปลัดสธ. ก็เคยเป็นนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด 2-3 จังหวัด และมาเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ และเคยเป็นเลขานุการรัฐมนตรีฯ ก็มีคุณสมบัติเพียงพอ ส่วนนพ.ณรงค์ สายวงศ์ ก็เป็นรองอธิบดี และมาเป็นผู้ตรวจ ส่วนนพ.ธเรศ ก็ไม่ต้องพูดถึงคุณสมบัติเพียบ การไปเป็นอธิบดีสบส.ก็เหมือนกลับบ้านเก่า นพ.ไพศาล ก็เช่นกัน

“นพ.ไพศาลเข้ามาพบและขอบคุณผม ก็ได้ย้ำว่า ขอให้อย.ทำระบบเพื่อประชาชน เมื่อมาขอขึ้นทะเบียนก็ต้องให้รวดเร็ว ส่วนนพ.ธเรศ แค่จัดการเรื่องผู้รับเหมาหนีงาน ก็หนักแล้ว เพราะนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สธ. สรุปมาให้ผมพบว่ามีผู้รับเหมาหนีงานเป็น 10 งานที่จะต้องไปจัดการว่าจะดำเนินการอย่างไร ที่จะสามารถยึดหลักประกันกลับมาได้ และการพัฒนาศักยภาพอสม. เพราะหากทำไม่ได้แทนที่จะเพิ่มศักยภาพก็จะกลายเป็นภาระ”นายอนุทินกล่าว
นพ.ธเรศ กล่าวว่า ต้องขอบคุณรองนายกฯและรมว.สธ.ที่ให้โอกาสไปทำงานที่กรมสบส. เพราะเป็นงานที่เคยผ่านและทำมาแล้ว ซึ่งก็จะได้ไปขับเคลื่อนเพื่อทำงานให้บรรลุตามวัตถุประสงค์