'รับผิดชอบเพียงผู้เดียว'

ตั้งตารอกันอยู่นานสองนาน! ในที่สุดก็มีความชัดเจนเสียที สำหรับการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ในประเด็นการนำกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณ

ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และการแถลงนโยบายของรัฐบาลที่ไม่มีการชี้แจงที่มาของงบประมาณ

ล่าสุดคณะรัฐมนตรี(ครม.) เคาะวันที่18 ก.ย.ที่จะถึงนี้ 1วัน(จะต้องสิ้นสุดภายในเที่ยงคืนของวันนั้น)ให้ฝ่ายค้านได้ซักฟอกนายกฯ พร้อมการันตีว่า “บิ๊กตู่” จะเข้าสภาฯตอบญัตตินี้ด้วยตนเองอย่างแน่นอน

“คอการเมือง” ต่างจับตากันอย่างใจจดใจจ่อว่า ลีลาการอภิปรายของฝ่ายค้านและคำชี้แจงจากนายกฯจะดุเดือดแค่ไหน?

การที่ “บิ๊กตู่” เลือกที่จะมาแจงซักฟอกในสภาฯด้วยตนเอง ส่วนหนึ่งอาจมาจากการชั่งน้ำหนักดูแล้วว่า “ได้มากกว่าเสีย” เพราะต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมามีการยิบยกประเด็นการตอบกระทู้ของฝ่ายค้านในสภาฯมาพูดถึง จนอาจทำให้ตัว “บิ๊กตู่” เองเสียรังวัดไปพอสมควร

อีกส่วนมาจากเสียงเรียกร้องจาก “ส.ส.ขั้วรัฐบาล” ที่ฝากผ่านที่ประชุมวิปรัฐบาลไปเมื่อวันก่อน ทวงถามคำมั่นสัญญาจากนายกฯที่เคยพูดว่าที่จะรับผิดชอบเรื่องนี้แต่เพียงผู้เดียว ดังนั้นเมื่อพูดแล้วว่าจะรับผิดชอบก็ควรที่จะต้องมาแจงสภาฯด้วยตนเอง

การอภิปรายในครั้งนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งบททดสอบการทำหน้าที่ในฐานะผู้นำ “รัฐนาวาประยุทธ์”ที่แม้จะมี “ทีมองครักษ์” จากพรรคพปชร.ไว้ซัพพอร์ตในกรณีฝ่ายค้านอภิปรายเกินเลย

ซึ่งมีไม้ตายคือ “การขอประชุมลับ” หรือ การอ้างเหตุผลในเรื่อง “กระบวนการยุติธรรม” ที่ขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญกำลังพิจารณาในเรื่องดังกล่าว เห็นได้จากที่นายกฯออกมาระบุล่าสุดว่า “ทุกคนต้องรับผิดชอบในคำพูดของตัวเอง”

และจริงอยู่ที่ว่าญัตติดังกล่าวจะไม่มีผลล้มรัฐบาลได้ เพราะไม่มีการลงมติ แต่การเคลียร์ข้อสงสัยให้สิ้นกระบวนความ ยอมมีผลในการลดแรงกดดัน หรือเกมการเมืองที่ผ่านมาซึ่งทำให้ “บิ๊กตู่” และรัฐบาลบาดเจ็บอยู่ไม่น้อย การที่ “บิ๊กตู่” เลือกที่จะมาชี้แจงต่อสภาฯจึงถือเป็นการเดินเกมที่ได้มากกว่าเสียตามที่กล่าวมาข้างต้น

ฉะนั้นคนที่จะเคลียร์ปัญหานี้มีเพียง“บิ๊กตู่”คนเดียวเท่านั้น ดังเคยลั่นวาจาไว้ว่า“จะรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว”!!