เล่นในกรอบแคบ

เล่นในกรอบแคบ

ดัชนีวานนี้ปรับตัวขึ้นแรง โดยได้แรงหนุนจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐเริ่มคลี่คลาย อีกทั้งหุ้นกลุ่มพลังงานได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น

ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,654.92 จุด (+15.78 จุด) Volume 6.3 หมื่นลบ. TFEX Net +18,889 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ -6,010 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ดัชนีดาวโจนส์ +41.03 จุด +0.16% จากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ไร้ทิศทาง และคลายกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ก่อนวันหยุดยาวในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันจันทร์ เนื่องในวันแรงงานสหรัฐ

+สหรัฐเผยการใช้จ่ายผู้บริโภคในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 0.6% สูงกว่าคาดที่ระดับ 0.5% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย.

+สหรัฐเผยดัชนีดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย

+ก.คลังจ่อชงครม. ขยายเวลามาตรการลดภาษีแวต 7% ต่อ

+ Fund Flow ต่างชาติมีสถานะซื้อ YTD 6.4 พันลบ. ค่าเงินบาท 30.605 บาท/US

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.61 ดอลลาร์ -2.8% ปิด 55.10 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากกังวลอุปสงค์น้ำมันที่อ่อนแอ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจากความไม่แน่นอนทางการค้า อาจทำให้ความต้องการน้ำมันดิบลดลง และส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน

-สหรัฐฯและจีนเริ่มบังคับใช้มาตรการภาษีเพิ่มเติมในวันนี้

-ธปท.มองเศรษฐกิจปีนี้มีโอกาสโตต่ำกว่า 3% จากความเสี่ยงตปท. จับตาเงินเฟ้อส.ค.สะท้อนอุปสงค์-ใช้จ่ายในประเทศ

*จับตาจีนเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนส.ค.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนในกรอบ แม้สหรัฐ-จีนจะเริ่มเก็บภาษีสินค้านำเข้าระหว่างกันตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ยังคงมีการเจรจาข้อตกลงทางการค้าควบคู่กันไป ขณะที่ปัจจัยในประเทศคาดเหตุเหตุน้ำท่วมจากพายุโพดุลอาจส่งผลกระทบการใช้จ่ายภาคครัวเรือนในระยะสั้น คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,645-1,665 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

หุ้น Defensive Stock (EASTW TTW BCH CPALL BJC) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ (ERW CENTEL AOT BJC CPALL TNP) หุ้น Domestic Play (ADVANC AMATA EKH SISB HMPRO)

หุ้นรายงานพิเศษ

CGD Analyst Meeting “แนะนำซื้อเก็งกำไร”  เข้าสู่โหมด turn around

  • 2Q62 มีกำไรสุทธิ ล้านบาท 52 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 247 ล้านบาทในงวด 2Q61 1H62 ขาดทุน 56 ล้านบาทลดลงจากขาดทุน 223 ล้านบาทในงวด 1H61 ทั้งนี้ ใน 2Q62 มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 351.66 ล้านบาทเนื่องจากค่าเงินบาทแข็งค่าจากการ ขณะที่บริษัทย่อยกู้ยืมเงินในสกุลดอลลาร์สหรัฐเพื่อใช้ในการก่อสร้างโครงการเจ้าพระยาเอสเตท
  • ผลการดำเนินงาน 4Q62 มีแนวโน้มเติบโตสูงจากโครงการเจ้าพระยาเอสเตทที่จะเริ่มโอนคอนโดฯหรูมูลค่ารวม 21,700 ล้านบาท จำนวน 366 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 3 แสนบาทต่อตรม. จองแล้ว 275 ยูนิต รวมมี backlog 16,400 ล้านบาทคิดเป็น 75% และจะเริ่มบริการโรงแรมหรู 2 แห่ง (CAPELLA 101 ห้อง, Four Seasons 299 ห้อง) หนุนผลการดำเนินงานปี 63 พลิกเติบโตก้าวกระโดด
  • บริษัทเตรียมออกหุ้นกู้ราว 700 ล้านบาทเพื่อระดมเงินทุนสำหรับแผนงานในอนาคตจะพัฒนาคอนโดฯที่ถ.พระราม 3 และปี 64 จะเปิดโรงเรียนนานาชาติซึ่งมีระดับชั้นอนุบาลถึงเกรด 12
  • ความเห็น ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตสูงใน Q4 และมีแนวโน้ม turn around ในปี 63 ขณะที่ราคาปิดล่าสุด 1.02 บาท -24%YTD จึงแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร”

หุ้นมีข่าว   

·      PLAT | Analyst Meeting | Bloomberg Consensus 6.84 บาท

แนวโน้ม 2H62 ยังไม่น่าตื่นเต้น ผลประกอบการคาดว่ายังถูกกดดันจากภาคการท่องเที่ยวและสภาวะเศรษฐกิจเมืองไทยที่ยังดูไม่สดใส นอกจากนี้ คาดว่าผลประกอบการยังถูกกดดันจากโครงการ The Market ที่คาดว่ายังไม่เลยจุดคุ้มทุนในปีนี้ อย่างไรก็ดี บริษัทได้เตรียมเปิดตัว New Anchor ที่ชั้นล่างของโครงการ ใช้พื้นที่เช่าราว 4000 ตร.ม. (ยังไม่เปิดเผยว่าเป็นบริษัทอะไร) คาดว่าจะช่วยดึงดูดให้คนเข้าห้างมากขึ้น ขณะที่ ธุรกิจโรงแรม Novotel Platinum Pratunam ยังคงดำเนินการได้อย่างแข็งแกร่ง 1H62 มี Occ.Rate เท่ากับ 94% เทียบกับ 1H61 อยู่ที่ระดับ 91% แต่คาดว่า %GPM ของธุรกิจโรงแรม จะปรับฐานใหม่สู่ระดับต่ำกว่าเดิมมาที่ระดับราว 51-53% จากปีก่อนอยู่ที่ระดับ 55% เนื่องจากยอดจองผ่าน Online Agent ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ถูกเก็บค่า Commission เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 62 ราว 859.8 ลบ. +9.5%YoY

·      SKY | Analyst Meeting | Bloomberg Consensus - บาท

- คาดผลประกอบการ 2H62 เติบโตต่อเนื่อง โดยมี backlog  ณ ปัจจุบันอยู่ราว 5 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลังราว2พันล้านบาท ส่งผลให้คาดรายได้ทั้งปีแตะระดับ 3พันล้านบาท (เติบโตก้าวกระโดดจากปี18 ที่มีรายได้ระดับ 900ล้านบาท)

-สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะสามารถรักษาระดับได้ใกล้เคียงอุตสาหกรรมที่ระดับ 15-20%

-ปัจจุบันมีสัดส่วนงานภาครัฐอยู่ที่ 90% ของรายได้ โดยบริษัทพยายามเพิ่มสัดส่วนรายได้ภาคเอกชนให้มากขึ้นเป็น 15-20% ภายในปี 63

·      SCC (Bloomberg Consensus 472.78 บาท)   ส่ง เอสซีจี แพคเกจจิ้งทุ่มงบลงทุนกว่า 4,341 ล้านบาท เข้าซื้อหุ้น “Visy Thailand” ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารในสัดส่วน 80% เพื่อเสริมแกร่งธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร คาดเริ่มบันทึกงบกำไรขาดทุนเข้ามาตั้งแต่ก.ย.นี้ เป็นต้นไป (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      TTW (Bloomberg Consensus 14.55 บาท) มั่นใจรายได้ปีนี้มากกว่าปีก่อน คาดปริมาณการขายน้ำเติบโต 2-3% จากปีก่อนอยู่ที่ 321.28 ล้านลูกบาศก์เมตร หลังมีการขยายฐานผลิตและจำหน่ายน้ำประปาแห่งที่ 2 อ.กระทุ่มแบน เฟสแรก ขนาดกำลังการผลิต 100,000 ลบ.ม./วัน (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      BAFS (Bloomberg Consensus 39.00 บาท) เตรียมเข้าประมูลงานบริการจัดเก็บและเติมน้ำมันในสนามบินอู่ตะเภา มั่นใจคว้าชัยชนะยันประสบการณ์สูง พร้อมเดินหน้าลงทุนขยายท่อขนส่งน้ำมันจากพิจิตรไปเมียนมา สอดรับนโยบายรัฐหนุนไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียน (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      TKN (Bloomberg Consensus 11.50 บาท)  จับมือ "พริงเกิลส์" ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 รสชาติ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "East Meets West" มั่นใจหนุนยอดขายโต โชว์มีส่วนแบ่งทางการตลาด 70% (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      (-) RATCH (Bloomberg Consensus 72.88 บาท) ศิวะ งานทวีส่ง ไทยลาวลิกไนท์ฟ้อง RATCH คดีละเมิดความลับการค้าโครงการโรงไฟฟ้าหงสา เป็นเงิน 6,457 ล้านบาท ฟาก RATCH ลั่นพร้อมต่อสู้คดี มั่นใจเต็มที่ ไม่มีตั้งสำรองฯ  (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      ATP30 (ราคาเหมาะสม 2.16 บาท)    เด้งรับอานิสงส์ลูกค้าจีนย้ายฐานเข้าไทย หลังสงครามการค้าทำพิษ เชื่อปีหน้าโรงงานจีนไหลเข้าเพียบ ส่งสัญญาณทิศทางไตรมาส 3 โตเด่น จ่อบุ๊กรายได้ลูกค้าใหม่เต็มไตรมาส เคาะผลงานปีนี้โตตามนัด 10-15% (ที่มา ทันหุ้น)

·      MEGA (Bloomberg Consensus 38.94 บาท)  ซุ่มดีลพาร์ตเนอร์อินโดนีเซียตั้งโรงงานอัพฐานโกยเงิน คาดชัดเจนใน Q4/2562 บิ๊ก "วิเวก ดาวัน" แย้มครึ่งหลังปี 2562 ฟอร์มแจ่ม เข้าช่วงไฮซีซัน แถมลุยออกสินค้าใหม่เพิ่ม 4-5 โปรดักต์หวังกระตุ้นยอดขาย พร้อมประเมินเทรดวอร์ไม่กระทบธุรกิจ เหตุเป็นสินค้าจำเป็นสำหรับผู้ใช้ (ที่มา ทันหุ้น)

·         DDD (Bloomberg Consensus 20.23 บาท) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)ออกประกาศกระทรวงฯ ยกเว้นสารสกัดจากกัญชาและกัญชงและบางส่วนของพืชกัญชง ให้ไม่ต้องถูกควบคุมเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เพื่อให้สามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ เช่น อาหาร เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สมุนไพรและยา นำรายได้เข้าประเทศต่อไป (ที่มา แนวหน้า)

·         TOP ปันผลในอัตรา 1.00 บ./หุ้น XD 12 ก.ย.

·         (+) MCS เซ็นสัญญารับจ้างผลิตงานของ Obayashi มีน้ำหนักงาน 14,000 ตัน (ที่มาอินโฟเควสท์)