วิตกเบร็กซิทไร้ข้อตกลงฉุดเงินปอนด์ร่วง

วิตกเบร็กซิทไร้ข้อตกลงฉุดเงินปอนด์ร่วง

เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ว่า อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปแบบไม่ข้อตกลง ในวันที่ 31 ต.ค.นี้

เงินปอนด์ร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2217 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2295 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1078 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1092 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6736 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6756 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 106.04 เยน จากระดับ 105.78 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9816 ฟรังก์ จากระดับ 0.9809 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3307 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3287 ดอลลาร์แคนาดา

เงินปอนด์ร่วงลงท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่า อังกฤษอาจเผชิญสถานการณ์เบร็กซิทแบบไร้ข้อตกลงในวันที่ 1 ต.ค.นี้ หลังจากที่นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ใช้แผนจำกัดการประชุมสภา เพื่อหวังเดินหน้าผลักดันให้อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีการทำข้อตกลง

สำนักพระราชวังบักกิ้งแฮมแถลงเมื่อวานนี้ว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงมีพระบรมราชานุญาตในการเสด็จเปิดประชุมรัฐสภาในวันที่ 14 ต.ค.ตามที่นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กราบทูล

ก่อนหน้านี้ สมาชิกรัฐสภาอังกฤษมีกำหนดกลับเข้าประชุมสภาในสัปดาห์หน้า โดยจะมีการประชุมไปจนถึงวันที่ 9 ก.ย. ก่อนที่จะมีการพักสมัยประชุมเป็นเวลา 3 สัปดาห์เพื่อให้พรรคการเมืองต่างๆจัดการประชุมภายในพรรค แต่การดำเนินการของนายจอห์นสันในครั้งนี้ได้ทำให้การพักสมัยประชุมสภายาวนานขึ้นเป็น 5 สัปดาห์

การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้มีการปิดรัฐสภาอังกฤษตั้งแต่กลางเดือนก.ย.เป็นเวลาราว 1 เดือน ซึ่งจะทำให้รัฐสภามีเวลาน้อยลงในการออกกฎหมายเพื่อสกัดความพยายามของนายจอห์นสันในการนำอังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 31 ต.ค.โดยไร้ข้อตกลง

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2/2562 (ประมาณการครั้งที่ 2), ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย เดือนก.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล เดือนก.ค., การใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน