หนุนศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในท้องถิ่น มุ่งเป้าลดปัญหาขาดสารอาหาร

หนุนศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในท้องถิ่น มุ่งเป้าลดปัญหาขาดสารอาหาร

กรมอนามัย หนุนศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในท้องถิ่น มุ่งเป้าลดปัญหาขาดสารอาหาร สร้างเด็กไทย สูงดี สมส่วน แข็งแรง ฉลาด

แพทย์หญิงอัมพร  เบญจพลพิทักษ์  รองอธิบดีกรมอนามัยและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า  กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาคุณภาพศูนย์พัฒนาเด็กเล็กร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สมาคมดับบ้านดับเมือง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อร่วมกันพัฒนาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กให้ได้มาตรฐาน ซึ่งปัจจุบันพบว่า  มีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวน 21,654 แห่งทั่วประเทศไทย โดยมีศูนย์ที่อยู่ในเกณฑ์ที่ควรได้รับการปรับปรุง จำนวน 1,671 แห่ง และต้องปรับปรุงอย่างเร่งด่วน จำนวน 304 แห่ง ให้เป็นศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่มีคุณภาพทั้งการส่งเสริมพัฒนาการทุกด้าน ช่วยเหลือและส่งต่อเด็กที่มีปัญหาพัฒนาการล่าช้าอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ เนื่องจากปัจจุบันปัญหาการเจริญเติบโตในเด็กไทยยังพบความน่ากังวลโดยเด็กไทยในช่วงวัยต่ำกว่า 5 ขวบ ซึ่งถือว่าเป็นช่วงสำคัญที่สุดของชีวิต แต่กลับพบเด็กที่เติบโตดี มีความสูงและน้ำหนักที่สมส่วนและสมวัยเพียงร้อยละ 58.86 ขณะที่เกือบครึ่งหนึ่งของเด็กปฐมวัยยังมีปัญหาการเจริญเติบโตโดยเป็นเด็กที่มีรูปร่างเตี้ยจากการขาดพลังงานและโปรตีนเรื้อรังถึงร้อยละ 15.79 มีภาวะโภชนาการเกิน มีรูปร่างอ้วนถึงร้อยละ 10.84 และยังพบเด็กที่มีโรคโลหิตจางถึงร้อยละ  27         

แพทย์หญิงอัมพร กล่าวต่อไปว่า ปัญหาพื้นฐานด้านโภชนาการของกลุ่มเด็กวัยดังกล่าวสะท้อนถึงภัยคุกคามต่อความเฉลียวฉลาดทางสติปัญญาและการพัฒนาทางด้านอารมณ์และจิตใจของเด็ก เพราะทำให้เด็กเกิดภาวะเซื่องซึม อ่อนเพลีย ขาดสมาธิ ความสามารถในการจดจำและเรียนรู้ลดลง เกิดปัญหาในการปรับตัวต่าง ๆต่อเนื่องในระยะยาว และยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้องรัง อาทิ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงและอื่น ๆ ได้มากขึ้นเมื่อเติบโตเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ อีกทั้งยังพบว่าในกลุ่มเด็ก 2 ขวบขึ้นไป มักถูกละเลยในเรื่องการดูแลสุขภาพมากกว่าในเด็กทารก รวมทั้งการให้วัคซีนที่ไม่ต่อเนื่องหรือไม่ครบถ้วน          

“กรมอนามัยจึงมุ่งให้ความสำคัญต่อการพัฒนาศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โดยหวังให้เป็นสถานที่เพื่อการพัฒนาเด็กปฐมวัยร่วมกับครอบครัว มีกลไกการดูแลเด็กที่ครบถ้วนและได้มาตรฐาน ทั้งในด้านโภชนาการ การดูแลอนามัยช่องปากและฟัน การละเล่นและการเรียนรู้ รวมถึงการได้รับข้อแนะนำด้านวัคซีน การติดตามการเจริญเติบโตและพัฒนาการ ตลอดจนเป็นแหล่งให้ความรู้ความเข้าใจแก่พ่อแม่เพื่อการดูแลเด็กเล็กที่ถูกต้อง ทั้งในด้านการเลี้ยงดูโดยรวม และการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ถูกสุขลักษณะ มีความปลอดภัย โดยนับเป็นภารกิจสำคัญของกรมอนามัยในการร่วมมือกับเครือข่ายทุกภาคส่วนสนับสนุนให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสามารถพัฒนาตนเองตามแนวทางมาตรฐานศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ได้อย่างมีคุณภาพต่อไป” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด