“เดอะวันเอสเตทฯ”ผุดคอนโดสายสีม่วง

“เดอะวันเอสเตทฯ”ผุดคอนโดสายสีม่วง

เดอะวันเอสเตทฯ หวังอานิสงส์ประท้วงฮ่องกง ดันซื้อที่อยู่อาศัยในไทย พลิกเกมสวนกระแสผุดคอนโดรัตนาธิเบศร์ ไม่หวั่นโอเวอร์ซัพพลาย มั่นใจรีเบิร์ทสายสีม่วง เหตุโปรดักส์ ราคา ตอบโจทย์ลูกค้า

นายเฉิน ซื่อ ปิง ประธานกรรมการ บริษัท เดอะ วัน เอสเตท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าเศรษฐกิจไม่ดี และสถานการอสังหาริมทรีพย์ในไทยชะลอตัว แต่ในฐานะเป็นผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯในไทยนาน15 ปี ภายใต้บริษัท เท็น ไทย ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม 7 โครงการ มูลค่าเกือบ5,000 ล้านบาท อาทิ ดิ ยูนีคเท็น ไนน์ ลาดพร้าว26 ,ดิ ยูนีค 10 ,ดิ ยูนีค ลาดพร้าว 26 ,ดิ ยูนีค เอกมัย-รามอินทรา , ดิ ยูนีค เกษตร-นวมินทร์ และดิ ยูนีคสุขุมวิท 62/1 ได้รับผลตอบรับที่ดี ยังคงเชื่อมั่นตลาดอสังหาฯ ในประเทศไทยยังสามารถเติบโตต่อไปได้

ทั้งนี้ เนื่องจากแนวโน้มคนฮ่องกงต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในต่างแดนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะไทยจะได้อานิสงส์มากที่สุดจากการที่ชาวฮ่องกงรู้สึกเบื่อหน่ายวิกฤตการเมืองที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ ล่าสุดสถานการณ์การประท้วงบนเกาะฮ่องกงที่รุนแรงและยืดเยื้อมานาน ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อไม่นับรวมสิงคโปร์ ไต้หวันที่ให้ความสนใจอสังหาฯไทย เพราะที่อยู่อาศัยในประเทศมีราคาแพงและพื้นที่จำกัด แม้ว่ากลุ่มทุนจีนจะชะลอการซื้อลง

สังเกตได้จากโครงการ “เคน แอททิจูด” รัตนาธิเบศร์ – MRTสถานีพระนั่งเกล้า มูลค่า1,900 ล้านบาท จำนวน588ยูนิต ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมที่ห่างจากแม่น้ำเจ้าพระยา 300 เมตร และใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRTสถานีพระนั่งเกล้า 100 เมตร ราคาเริ่มต้นที่ 2.99 ล้านบาทขนาด27 ตร.ม.สูงสุด8 ล้านบาทขนาด100 ตร.ม. ภายใต้บริษัท เดอะ วัน เอสเตท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ได้รับการจอง25% คิดเป็นมูลค่า200 ล้านบาทจากกลุ่มนักลงทุนไต้หวันและฮ่องกง ทั้งที่ยังไม่ได้เปิดตัวโครงการโดยเริ่มก่อสร้างมิ.ย. ที่ผ่านมาคาดว่า จะสามารถขายหมดภายใน18 เดือนและก่อสร้างเสร็จในปี2565

“ จากแนวโน้มดังกล่าว รวมทั้งนโยบายรัฐบาลได้ผลักดันโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้บริษัทขยายโครงการคอนโดมิเนียมจากโซนรัชดา ลาดพร้าวมายังโซนรถไฟฟ้าสีม่วง เพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคตแม้ว่าจะมีซัพพลายเหลือขายอยู่จำนวนมาก แต่ตนเชื่อว่าหากสามารถทำโปรดักส์ที่ตอบโจทย์ในราคาที่ลูกค้ารับได้จะได้รับการตอบรับที่ดี เพราะโครงการนี้ระดับราคาอยู่ที่ 6-7หมื่นบาทต่อตร.ม. ขณะที่ราคาตลาด 8 หมื่นบาทต่อตร.ม. และถ้าที่เทียบโซนในเมืองราคาสูงถึง2-3แสนบาทต่อตร.ม.ตอบโจทย์กำลังซื้อกลุ่มเป้าหมายรวมทั้งดีไซน์และฟังก์ชั่นทันสมัยเน้นความสูงถึงเพดาน ถึง4.9 เมตร และจำนวนยูนิตต่อชั้น21 ยูนิต ”

โดยบริษัทได้แต่งตั้งให้ พรีโม เรียลเตอร์ บริษัทในเครือ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ที่ทำการดูแลการขายให้ด้วย คาดว่า ได้รับการตอบรับที่ดีกลุ่มลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยและการลงทุน และในไตรมาส4 ปีนี้จะเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว ย่านศรีนครินทร์ ภายใต้ชื่อ BIBVRY Village บนพื้นที่3 ไร่กว่า จำนวน 18 ยูนิตราคาตั้งแต่ 30-50ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่ลงทุนอสังหาฯในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง คาดว่า 5 ต่อจากนี้จะลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาฯ อีก 7-10 โครงการ