นายกฯ ชื่นชมผู้ประกอบการไทย เน้นยุทธศาสตร์พี่จูงมือน้อง เพื่อนจูงมือเพื่อน

นายกฯ ชื่นชมผู้ประกอบการไทย เน้นยุทธศาสตร์พี่จูงมือน้อง เพื่อนจูงมือเพื่อน

นายกรัฐมนตรีชื่นชมผู้ประกอบการไทย เน้นยุทธศาสตร์พี่จูงมือน้อง เพื่อนจูงมือเพื่อน เพื่อเพิ่มผู้ประกอบการ SMEsและ Start up ไทยในตลาดโลก

วันนี้ (26 ส.ค 62) เวลา 13.00 น. ณ ตึกสันติไมตรีหลังนอก ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานมอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ปี 2562 (Prime Minister’s Export Award 2019) โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เอกอัครราชทูต ผู้บริหาร ภาครัฐ และเอกชนเข้าร่วม กว่า 400 คน


โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบรางวัลแก่ผู้ประกอบการไทย 7 ประเภทรางวัล ได้แก่ 1) รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกยอดเยี่ยม (Best Exporter) 2) รางวัลสินค้านวัตกรรมยอดเยี่ยม (Best Innovation) 3) รางวัลแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม (Best Thai Brand) 4) รางวัลสินค้าไทยที่มีการออกแบบยอดเยี่ยม (Best Design) 5) รางวัลธุรกิจบริการยอดเยี่ยม(Best Service Enterprise Award) ประกอบด้วย 3 สาขา คือ สาขาดิจิทัลคอนเทนท์และซอฟต์แวร์ สาขาธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ สาขาโลจิสติกส์สินค้า 6) รางวัลสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม (Best OTOP) และ 7) รางวัลสินค้าฮาลาลยอดเยี่ยม (Best Halal) ทั้งสิ้น 34 ราย

messageImage_1566813080441

จากนั้น นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีแก่ผู้ได้รับรางวัล พร้อมกล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งภาคการผลิตและบริการอย่างต่อเนื่อง พัฒนาทักษะผู้ประกอบธุรกิจให้ใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ สนับสนุนในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและตลาด เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถขยายการดำเนินธุรกิจ สู่ตลาดต่างประเทศได้ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนภาคการส่งออกไทยไปสู่ประเทศไทย 4.0 ด้วยยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยนวัตกรรมที่มีคุณค่าและมูลค่า ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้าและบริการคุณภาพสูงในอาเซียน โดยคงเอกลักษณ์ความเป็นไทยที่โดดเด่น หากการส่งออกและภาคธุรกิจโดยรวมมีความเข้มแข็ง ก็จะช่วยเศรษฐกิจฐานรากให้มีความมั่นคง ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รัฐบาลเน้นผลักดันการค้าระหว่างประเทศแบบเชิงรุก สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นแรงบันดาลใจแก่ผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ให้เห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาธุรกิจและตนเองให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้สินค้าและบริการของตนมีคุณภาพและมีมาตรฐาน สามารถส่งออกไปสู่ตลาดต่างประเทศได้ ทั้งนี้ ต้องรักษามาตรฐานการดำเนินธุรกิจและภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยสมกับที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ ที่เป็นเครื่องยืนยันคุณภาพการประกอบธุรกิจในวันนี้


โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังมอบกำลังใจแก่ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ให้มุ่งมั่นต่อไป ผู้ที่ประสบความสำเร็จแล้วก็ให้ช่วยเหลือกันและกัน เสมือนเหมือนพี่จูงมือน้อง เพื่อนจูงมือเพื่อน เกื้อกูลกันในระบบ ให้เกิดความมั่นคงมั่งคั่ง