SEAFCO - ซื้อ

SEAFCO - ซื้อ

ตามนํ้าไป

Event

Opportunity day.

lmpact

backlog ในมืออยู่ที่ 2.3 พันล้านบาท ซึ่งจะไปรับรู้เป็ นรายได้ 20% ของประมาณการปี 2563

backog ของ SEAFCO ใน 2Q62 อยู่ที่ 2.3 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้รายได้ปี 2562 เป็นไปตามคาด และจะรับรู้รายได้ 20% ของประมาณการรายได้ปี 2563 โดยผู้บริหารคาดว่ารายได้ปี 2562 จะอยู่ที่ 3 พันล้านบาท ซึ่งน่าจะทำได้ตามคาดซึ่งใกล้เคียงกับประมาณการของเราที่ 3.1 พันล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทก็ยังตั้งงบลงทุนปี 2562 สำหรับอุปกรณ์ใหม่ไว้ที่ 150 ล้านบาทสำหรับโครงการที่จะเพิ่มเข้ามาใหม่ (มีการสั่งเครื่องจักรใหม่แล้วถึงครึ่งหนึ่งของงบที่ตั้งเอาไว้)

มีโอกาสได้ backlog เพิ่มจากโครงการภาครัฐ และโครงการ mixed used เชิงพาณิชย์

มีโครงการภาครัฐหลายโครงการอย่างเช่น i) ทางด่วนพระราม III – ดาวคะนอง ii) ทางยกระดับ (บางขุนเทียน-เอกชัย มูลค่า 1.05 หมื่นล้านบาท) ซึ่งต้องผ่านการอนุมัติแผนบริหารการจราจรก่อนถึงจะเซ็นสัญญาได้ โดยคาดว่าโครงการทางด่วนพระราม III- ดาวคะนอง (3 หมื่นล้านบาท) จะเซ็นสัญญาได้ใน 3Q62 เราคาดว่า backlog จากสองโครงการนี้จะอยู่ที่ 1-1.2 พันล้านบาท นอกจากโครงการภาครัฐแล้ว ยังมีโครงการ mixed use เชิงพาณิชย์อีก อย่างเช่น i) ศูนย์ประชุมสิริกิตต์ิแห่งใหม่ ii) The Forestia ฯลฯ ซึ่งเรามองว่า SEAFCO มีโอกาสจะได้ประโยชน์มากที่สุดเนื่องจากมีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดถึง 31%

รฟท. ตั้งเป้าจะเซ็นสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงในเดือนกันยายน 2562

สัญญาจ้างงานโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง (HSR) เชื่อมสามสนามบิน (backlog ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท) น่าจะเซ็นได้ในเดือนกันยายน 2562 ซึ่งในปัจจุบันกำลังมีการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างแลว้ และคาดว่าจะพร้อมถึงประมาณ 80% ของพ้นที่ทั้งหมด ส่วนอีก 20% (~1,000 ไร่) ต้องมีการออกกฎหมายพิเศษเพื่อเวนคืน (ยกเลิกสัญญาเช่าที่ดิน) ซึ่งน่าจะต้องใช้เวลา 2-3 ปี ทั้งนี้ เราได้รวมมูลค่าสัญญาฉบับหนึ่ง (1.5 พันล้านบาท) เอาไว้ในสมมติฐานรายได้ปี 2563 ของเราแล้ว

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และให้ราคาเป้าหายกลางปี 253 ที่ 11.70 บาท อิงจาก PER เฉลี่ยระยะยาว +1 S.D.ที่ 22.0x เราเลือก SEAFCO เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มผู้รับเหมางานเสาเข็มและฐานราก เนื่องจากบริษัทมีแนวโน้มกำไรแน่นอนในปี 2562 และมีศักยภาพสูงที่จะได้ backlog เพิ่มจากการรับงานขนาดใหญ่ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา

Risks

ความวุ่นวายทางการเมือง, ความล่าช้าของการก่อสร้างและการลงทุน