เบนซ์ "เอ-คลาส" ลุยตลาดรถหรู

       บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว “The new Mercedes-Benz A-Class”  เจเนอเรชันที่ 4 ในรุ่น A 200 AMG Dynamic มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ เบนซิน 4 สูบ เทอร์โบ 1.3 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ซึ่งถือเป็นคอมแพ็คคาร์ที่มีกำลังแรงม้ามากที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับรถยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์เท่ากัน แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่ 1,620 รอบ/นาที มีอัตราการปล่อยไอเสียต่ำเพียง 119-124 กรัม/กม. และมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 5.2 ลิตร/100 กม.

       โดยช่วงแรกเป็นการทำตลาดรุ่นนำเข้า (CBU) ราคา 2,490,000 บาท

     โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า   “เมอร์เซเดส-เบนซ์ นำเสนอรถยนต์กลุ่มคอมแพ็คคาร์ครั้งแรกจากการเปิดตัว Mercedes-Benz   A-Class ในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ เมื่อปี 2540  ส่วนปีที่ผ่านมารถยนต์รถกลุ่มคอมแพคท์มีสัดส่วน 25% ของยอดขายเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ทั่วโลก

       A 200 AMG Dynamic ยังมีจุดขายสำคัญคือ ระบบมัลติมีเดียใหม่ MBUX หรือ Mercedes-Benz User Experience ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์พัฒนาขึ้นเพื่อให้ใช้งานได้ง่าย และสามารถจดจำลักษณะการใช้งานของผู้เป็นเจ้าของได้ ถือเป็นครั้งแรกของรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็คคาร์ที่ระบบ MBUX จะทำงานร่วมกับบริการ Mercedes me connect ทำให้การเชื่อมต่อระหว่าง ลูกค้า รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ รวมถึงการบริการอื่นๆ

       นอกจากนี้ยังมีความสามารถใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นการจากทำงานร่วมกันของ 2 ระบบ  เช่น การสั่งการด้วยเสียงที่สามารถตรวจจับการสั่งการด้วยภาษาพูดอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ระบบเข้าใจภาษาอังกฤษในหลายสำเนียงได้ ด้วยการพูดคำว่า ‘Hey, Mercedes’ เพื่อเริ่มต้นการทำงาน ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถใช้สมาธิกับการขับรถได้มากขึ้น

       สำหรับการออกแบบภายนอกเน้นความเรียบง่าย และให้ความสำคัญกับผิวสัมผัส แต่มีความร้อนแรง ด้วยโครงสร้างภายนอกแบบ AMG ที่ตัดทอนเส้นสาย และช่องว่างให้มีน้อยที่สุด มาพร้อมกับล้อขนาด 18 นิ้ว แบบ 5 ก้านคู่ และโคมไฟหน้าแบบ LED High Performance ที่มีความเพรียวบาง และกรอบเคลือบโครเมี่ยมที่ทำงานร่วมกับไฟส่องสว่างขณะขับขี่ตอนกลางวันแบบ LED ที่มีลักษณะคล้ายคบเพลิง

       ภายใน ภายในห้องโดยสารได้รับการปรับโฉมใหม่ให้ดูทันสมัย สไตล์สปอร์ตแบบ AMG  และกว้างขวางเพื่อประโยชน์ใช้สอยที่มาก ห้องเก็บสัมภาระด้านหลังมีปริมาตร 420 ลิตร ช่องกระโปรงหลัง มีขนาดกว้าง 950 มิลลิเมตร

       พวงมาลัยตกแต่งแบบสปอร์ตท้ายตัดหุ้มด้วยหนัง nappa  เบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO / DINAMICA microfibre โดยเบาะนั่งด้านคนขับมีหน่วยบันทึกความจำ เบาะด้านหลังยังสามารถพับได้แบบ 40:20:40

       คอนโซลหน้ามาพร้อมกับหน้าจอ Widescreen ขนาด 10.25 นิ้วต่อกัน 2 หน้าจอ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานโดยหน้าจอทั้งสองจะอยู่ติดกันและมีลักษณะลอยตัวแบ่งการแสดงผลเป็น 2 ส่วน คือ แผงหน้าปัดสำหรับแสดงมาตรวัดต่างๆ

       ห้องโดยสารมีระบบไฟส่องสว่างในห้องโดยสารที่มีให้เลือกถึง 64 สี มากกว่ารุ่นก่อนหน้า 5 เท่า และยังสามารถผสมสีสันต่างๆ เพิ่มเป็นสีพิเศษได้อีก 10 สี