ศรีสวัสดิ์ฯ แจงกรณีธปท.สั่งปรับบีฟิท ยันไม่กระทบธุรกิจ

ศรีสวัสดิ์ฯ แจงกรณีธปท.สั่งปรับบีฟิท ยันไม่กระทบธุรกิจ

"ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น" ชี้กรณีธปท.สั่งปรับบง.ศรีสวัสดิ์ ไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ระบุเป็นเรื่องของบริษัทลูก เกิดกับพอร์ตลูกหนี้เก่าช่วงปี 2560 เคลียร์ปัญหาจบแล้ว ลั่นปัจจุบันทำธุรกิจภายใต้กรอบแบงก์ชาติ

นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร  บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ SAWAD เปิดเผยถึงกรณีที่มีรายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) สั่งปรับบริษัท เงินทุนศรีสวัสดิ์ จำกัด(มหาชน)หรือ BFIT ปล่อยกู้เกินกว่าอัตราดอกเบี้ยที่บริษัทประกาศว่า  ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ SAWAD และไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของ SAWAD  เนื่องจากเป็นการดำเนินการของบริษัทลูก ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้เกิดกับพอร์ตลูกหนี้เก่าช่วงปี 2560  และปัจจุบันก็ได้มีการดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ปี 2561 และกรณีดังกล่าวจะไม่ส่งผลกับแผนการดำเนินงานของกลุ่มบริษัททั้งในปัจจุบันและในอนาคต

นางสาวธิดา กล่าวต่อว่า ปัจจุบันการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทได้ยึดตามหลักเกณฑ์ของธปท.โดยที่ผ่านมาหลังจากที่ทางกลุ่มศรีสวัสดิ์ฯได้เข้าไปซื้อหุ้นในบริษัทเงินทุน กรุงเทพธนาทร จำกัด (มหาชน) หรือ BFIT ก็ได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัท ทำให้ภาพรวมการดำเนินธุรกิจของบริษัทมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ทำธุรกิจภายใต้กรอบกฎหมายทุกขั้นตอน ทำให้ไม่ได้มีความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ

อย่างไรก็ตามแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายเดิมที่ตั้งเป้ารายได้เติบประมาณ 20-30%  พร้อมทั้งเดินหน้าขยายสาขาให้คลอบคลุมทุกพื้นที่ ภายในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีจำนวนสาขาทั้งสิ้นประมาณ 3,400-3,500  สาขา  ซึ่งจะส่งผลให้พอร์ตลูกหนี้มีอัตราการเติบโตในทิศทางเดียวกับรายได้จากช่วงสิ้นสุดไตรมาส2/2562  พอร์ตลูกหนี้มีมูลค่า 3.2 หมื่นล้านบาท