สตัฟฟ์ 'พะยูนมาเรียม' ใช้เวลามากกว่า 3 เดือน

สตัฟฟ์ 'พะยูนมาเรียม' ใช้เวลามากกว่า 3 เดือน

อพวช.เก็บรักษาร่าง "น้องมาเรียม" ในห้องแช่แข็ง ลบ 20 องศาเซลเซียส เตรียมสตัฟฟ์เพื่อการศึกษา คาดใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 เดือนจึงจะแล้วเสร็จ พร้อมลงมือหลังจากเสร็จสิ้นมหกรรมวิทย์ฯ 25 ส.ค.นี้

องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) โดยพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ได้รับมาแล้วร่างพะยูนน้อย "น้องมาเรียม" จากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งเสียชีวิตจากการกินขยะพลาสติกในท้องทะเลไทยเตรียมทำการสตัฟฟ์เพื่อการศึกษา หวังให้ประชาชนตระหนักและให้ความสำคัญกับทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งมากยิ่งขึ้นต่อไป

ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กล่าวว่า อพวช. เป็นหน่วยงานซึ่งมีหน้าที่ในการสร้างความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์ โดยมีพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเป็นศูนย์กลางการศึกษาวิจัยด้านธรรมชาติวิทยาของประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง อีกทั้งยังเป็นศูนย์จัดแสดงนิทรรศการความหลากหลายทางชีวภาพ มีการสตัฟฟ์สัตว์เพื่อการเก็บรักษา และจัดแสดงผ่านตัวอย่างสัตว์สตัฟฟ์เกือบทุกกลุ่ม ซึ่งการสตัฟฟ์สัตว์เป็นการใช้เทคนิคทางวิทยาศาสตร์ผสานกับศิลปะทำให้สัตว์ที่ตายแล้วมีท่าทางเสมือนยังมีชีวิตในอิริยาบถที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติที่สุด ซึ่งทาง อพวช. ถือเป็นหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านการสตัฟฟ์สัตว์อันดับต้น ๆ ของประเทศ ที่มุ่งมั่นทำการศึกษาและพัฒนาด้านนี้อย่างจริงจังมาโดยตลอด

ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา กล่าวว่า พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาได้ให้ความความสำคัญงานด้านการศึกษาวิจัยด้านธรรมชาติวิทยาและการเก็บรักษาวัสดุตัวอย่างด้านธรรมชาติวิทยามาโดยตลอด โดยเฉพาะการสตัฟฟ์สัตว์ด้วยเทคนิคสมัยใหม่อย่าง Taxidermy ด้วยความพร้อมด้านบุคลากร เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมา อพวช. ได้ทำการสตัฟฟ์สัตว์และนำมามาจัดแสดงนิทรรศการมากมาย ถือเป็นมิติใหม่ของแนวทางการจัดนิทรรศการด้านธรรมชาติวิทยาของประเทศไทย ในกรณีของน้องมาเรียม ทางด้านทีมนัก Taxidermy ผู้เชี่ยวชาญด้านสตัฟฟ์สัตว์ของ อพวช. กำลังวางแผนและหารือเรื่องวิธีการที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้สมบูรณ์และดีที่สุด โดยจะดำเนินการสตัฟฟ์หลังงามหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2562 เสร็จสิ้นลง ซึ่งคาดว่าการสตัฟฟ์น้องมาเรียมจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 เดือน จึงจะแล้วเสร็จ

ด้านนายวัชระ สงวนสมบัติ ผู้อำนวยการกองวัสดุอุเทศธรรมชาติวิทยา นัก Taxidermy ผู้เชี่ยวชาญด้านสตัฟฟ์สัตว์ของ อพวช. กล่าวว่า ขณะนี้ อพวช. ได้เก็บรักษาน้องมาเรียมลูกพะยูนเอาไว้ในห้องแช่แข็ง ลบ 20 องศาเซลเซียส เพื่อคงสภาพผิวหนังของมาเรียมไม่ให้เน่าเปื่อย ส่วนเรื่องการสตัฟฟ์นั้นต้องรอปรึกษากับเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายอีกครั้งก่อนทำการสตัฟฟ์ โดยการสตัฟฟ์สัตว์ คือ การนำหนังของสัตว์ที่ตายลงมาทำการรักษาสภาพใว้ให้ใกล้เคียงกับตอนมีชีวิต ในสภาพการเก็บแบบแห้ง โดยไม่มีโครงกระดูกและกระโหลกศีรษะ การสตัฟฟ์สัตว์ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ เพื่อให้ผลงานออกมาเหมือนจริงมากที่สุด โดยเฉพาะ Anatomy กายวิภาคเฉพาะของสัตว์ชนิดนั้นๆ สัตว์สตัฟฟ์จะต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างดี ไม่ให้ชำรุดเสียหาย จากความร้อน ความชื้น แมลง เชื้อรา หนูและแมลงสาบ ที่อาจทำความเสียหายต่อสัตว์สตัฟฟ์ได้

ซึ่งความยากของการสตัฟฟ์ครั้งนี้ คือการรักษาสภาพหนังของมาเรียม เพราะหนังของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล เช่น วาฬ โลมา และพะยูนนั้น จะมีไขมันค่อนข้างหนามากแทรกอยู่ จึงมีความยากกว่าการสตัฟฟ์สัตว์บก จึงต้องนำหนังผ่านกระบวนการเพื่อให้ไขมันออกจากหนังให้มากที่สุด มิฉะนั้นหนังจะเปียกเยิ้ม ไม่แห้ง และไม่สามารถขึ้นรูปให้คงสภาพตามที่ต้องการได้ อีกทั้งจะเกิดการเปื่อยยุ่ย ขึ้นรา เน่าเสีย หรือเสียหายได้ง่าย และยังต้องใช้การขึ้นรูปให้เสมือนจริงที่สุด รวมถึงเย็บผิวหนังและตกแต่งลักษณะภายนอกให้ถูกต้องและสวยงามอีกด้วย นอกจากการสตัฟฟ์แล้ว ยังสามารถต่อโครงกระดูกน้องมาเรียมเก็บไว้ศึกษาต่อได้อีกโดยทำหุ่นจำลองไว้หลาย ๆ ที่ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และจดจำน้องมาเรียมตลอดไป