'พาณิชย์' เล็งหน้าปรับโฉมร้านโชห่วยดั่งเดิม

'พาณิชย์' เล็งหน้าปรับโฉมร้านโชห่วยดั่งเดิม

"จุรินทร์" เร่งผู้บริหารกรมพัฒนาธุรกิจการค้าปรับโฉมร้านโชห่วยดั่งเดิมให้เป็น smart โชห่วย หวังสร้างความเข้มแข็งอยู่รอดได้ พร้อมชงแนวทางประกันรายได้ปาล์มและข้าว

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ก้าวต่อไปของการทำงานข้าราชการกระทรวงพาณิชย์จะเป็นไปตามกรอบนโยบาย 10 นโยบายหลัก โดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วน คือ ดูแลปัญหาปากท้องของประชาชนที่จะควบคู่ไปกับการพัฒนาร้านค้าโชห่วยดั้งเดิมของคนไทยให้มีความเข้มแข็งต่อสู้ปรับเปลี่ยนให้ทันยุคสมัยของโลก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เห็นความสำคัญและเป็นนโยบายเร่งด่วนที่ต้องรีบแก้ไขปัญหาเพื่อช่วยเหลือร้านค้าโชห่วยไทยอย่างมาก

ทั้งนี้ ได้สั่งการและมอบหมายให้นายวุฒิไกร ลีวีระพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ไปศึกษาและจัดทำรูปแบบที่จะปรับปรุงร้านโชห่วยดั้งเดิมให้เป็น smart โชห่วยให้บริการเทียบเท่าห้างต่างๆ โดยขณะนี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะไปสำรวจร้านโชห่วยทั่วประเทศยังเปิดให้บริการมีจำนวนมากน้อยแค่ไหน และกำหนดรูปแบบหรือต้นแบบของ smart โชห่วยที่จะมีการปรับรูปโฉมใหม่มีหน้าตาอย่างไรและดีกว่าร้านโชห่วยขณะนี้อย่างไร ซึ่งตัวเลขร้านโชห่วยดั้งเดิมมีอยู่แล้วคงจะไม่ลำบากในการสำรวจตรวจสอบ

โดยเมื่อจัดทำต้นแบบ smart โชห่วยเรียบร้อยจะมีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปแนวทางการปรับร้านโชห่วยดั้งเดิมให้เป็นร้าน smart โชห่วย และคาดว่าไม่นานเกินรอจะมีความชัดเจนเรื่องนี้ โดยเฉพาะเป้าหมายการปรับเปลี่ยนเป็น smart โชห่วยก่อนหมดปีนี้และเป้าหมายปีหน้าจะมีอย่างน้อยกี่แห่ง แต่เรื่องนี้ถือว่าต้องเร่งดำเนินการ

 

นอกจากนี้ การช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวนาและชาวสวนปาล์มน้ำมันนั้น ในที่ประชุมคณะกรรมการปาล์มน้ำมันแห่งชาติ จะมีการสรุปมาตรการประกันราคาปาล์มน้ำมัน 4 บาทต่อกิโลกรัมให้ที่ประชุมได้พิจารณา คาดว่าเมื่อมีมติชัดเจนจะได้ตัวเลขช่วยเหลือชาวสวนปาล์มว่าโครงการประกันรายได้นี้จะใช้เงินงบประมาณมากน้อยแค่ไหนและจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ในวันที่ 20 ส.ค.62หรือสัปดาห์หน้า

ส่วนประกันรายได้เกษตรกรปลูกข้าวนั้น คณะกรรมการ 3 ฝ่ายได้ข้อสรุปร่วมกันเมื่อวันที่ 17 ส.ค.62 ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เตรียมเสนอคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว หรือ นบข ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน วันที่ 21 ส.ค.62 แต่หากนายกรัฐมนตรีติดภารกิจวันดังกล่าวก็จะเลื่อนประชุมเป็นสัปดาห์หน้า เพื่อจะได้เร่งพิจารณาช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้ต่อไป ดังนั้นยังไม่สามารถตอบได้ชัดเจนว่าโครงการประกันรายได้ข้าวจะใช้งบประมาณเท่าใด แต่เชื่อว่าเมื่อผ่านการพิจารณาในที่ประชุม นบข. มาแล้วจะทราบตัวเลขที่ชัดเจนมากขึ้น

ล่าสุด นายจุรินทร์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการปาล์มน้ำมันแห่งชาติว่าน่าจะนำเสนอโครงการประกันรายได้น้ำมันปาล์มเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันพรุ่งนี้(20 ส.ค.)หรืออย่างช้าอาจจะเป็นสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ในส่วนของงบประมาณจะต้องให้ทางฝ่ายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปคำนวณมาอีกขั้นหนึ่งว่าเฉพาะส่วนต่างนั้นขณะนี้ต้องใช้เท่าใด โดยในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจะได้มีการพูดกันเรื่องตัวเลขและจะได้นำเสนอตามกรอบวงเงินงบประมาณที่ชัดเจนอีกครั้ง