รพ.สงฆ์ ตั้งคลินิกเลิกสูบบุหรี่กำหนดเป็นเขตปลอดบุหรี่ 100%

รพ.สงฆ์ ตั้งคลินิกเลิกสูบบุหรี่กำหนดเป็นเขตปลอดบุหรี่ 100%

โรงพยาบาลสงฆ์ ห่วงปัญหาสุขภาพพระสงฆ์สามเณรจากการสูบบุหรี่ จัดตั้งโครงการคลินิกเลิกสูบบุหรี่เพื่อให้คำปรึกษาแก่พระสงฆ์สามเณร ตั้งเป้าหมายต้องไม่มีพระสงฆ์สามเณรสูบบุหรี่และโรงพยาบาลสงฆ์เป็นเขตปลอดบุหรี่ 100%

นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า การสูบบุหรี่เป็นปัญหาสังคมและสุขภาพควันบุหรี่ในอากาศเกิดจากการเผาไหม้ของบุหรี่ ซึ่งมีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น คาร์บอนมอนนอกไซด์แอมโมเนีย ฟอร์มาลดีไฮด์และสารก่อมะเร็งชนิดอื่นๆ ที่ผู้ได้รับควันบุหรี่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการเป็นโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคมะเร็งที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นมากถึงร้อยละ 30 และควันบุหรี่ที่ผู้สูบบุหรี่พ่นออกมาภายหลังจากการดูดควันบุหรี่เข้าปอด จากข้อมูลของโรงพยาบาลสงฆ์ พบว่า พระสงฆ์สามเณรที่อาพาธ จำนวน 59,000 รูป ในจำนวนนี้มีประวัติการสูบบุหรี่ ประมาณ 18,000 รูป หรือคิดเป็นร้อยละ 30 ของพระสงฆ์สามเณรที่อาพาธ โดยโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ซึ่งทำให้มรณภาพ เช่น โรคมะเร็งปอด ถุงลมปอดโป่งพอง วัณโรคปอด มะเร็งตับ เส้นเลือดในสมองตีบ เป็นต้น

นายแพทย์ชำนิ จิตตรีประเสริฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงฆ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการรณรงค์ลดละเลิกสูบบุหรี่ทำให้พระสงฆ์สามเณรที่สูบบุหรี่ มีจำนวนลดลง  และพระราชบัญญัติคุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ. 2535 ของกระทรวงสาธารณสุข กำหนดให้มีการคุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ตามประกาศกระทรวง สถานที่ราชการทุกแห่งต้องเป็นเขตปลอดบุหรี่ 100% และเป็นสถานที่ให้การรักษาผู้ที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่ โรงพยาบาลสงฆ์ จึงได้ดำเนินการจัดตั้งโครงการคลินิกเลิกสูบบุหรี่ตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 เป็นต้นมา โดยบูรณาการการรักษาจากสหสาขาวิชาชีพ รวมถึงดำเนินการในเชิงรุกต่างๆ เช่น จัดนิทรรศการรณรงค์เลิกสูบบุหรี่โลก การออกหน่วยให้ความรู้ถึงพิษภัยของบุหรี่ ที่วัดโรงเรียนพระปริยัติธรรม  และรับสมัครพระสงฆ์สามเณรเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 2–3 ปีที่ผ่านมามีพระภิกษุสามเณรที่เข้าร่วมโครงการประมาณร้อยละ 10 สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้ ทั้งนี้โครงการคลินิกเลิกสูบบุหรี่ของโรงพยาบาลสงฆ์กำหนดเป้าหมายในการปฏิบัติงานคือ ต้องไม่มีพระสงฆ์สามเณรสูบบุหรี่และโรงพยาบาลสงฆ์
เป็นเขตปลอดบุหรี่ 100%