‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘ทรงตัว’ ที่ 30.90 บาทต่อดอลลาร์

‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘ทรงตัว’ ที่ 30.90 บาทต่อดอลลาร์

คาดจีดีพีไทยกดดันเงินบาทอ่อนค่า ขณะที่ตลาดปิดรับความเสี่ยงง่าย ไม่เป็นบวกต่อการลงทุนในเอเชียและเงินบาท

นายจิติพล  พฤกษาเมธานันท์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ที่ระดับ 30.90 บาทต่อดอลลาร์ ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน

ในช่วงต้นสัปดาห์ เชื่อว่า รายงานจีดีพีไทยจะกดดันให้เงินบาทเคลื่อนไหวในแดนอ่อนค่าด้วยความหวังว่าธนาคารแห่งประเทศไทยอาจมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

ขณะที่ในช่วงกลางถึงท้ายสัปดาห์ต้องจับตาไปที่การสัมนาJackson Hole โดยในปัจจุบันตลาดเชื่อว่าทุกธนาคารกลางมีแนวโน้มที่จะใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายดอลลาร์จึงอาจไม่สามารถอ่อนค่าต่อได้มากนักยิ่งในช่วงที่ตลาดการเงินอยู่ในภาวะผันผวน

นอกจากนี้เรามองว่าความเคลื่อนไหวของตลาดทุนทั้งหุ้นและบอนด์จะเป็นประเด็นหลักที่กำหนดทิศทางตลาดเงินอยู่ซึ่งภาพตลาดที่ปิดรับความเสี่ยงง่ายถือว่าไม่เป็นบวกต่อการลงทุนในเอเชียและเงินบาท

มองกรอบค่าเงินบาทวันนี้30.60 - 31.10 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับสัปดาห์นี้มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจหลายอย่างเริ่มต้นในวันจันทร์สภาพัฒนฯมีกำหนดรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่คาดจีดีพีจะขยายตัว2.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนชะลอตัวลงจากระดับ2.8% ในไตรมาสแรกจากทั้งการบริโภคการลงทุนการใช้จ่ายของภาครัฐขณะที่ส่งออกก็หดตัวลงจากสงครามการค้า

วันอังคารต้องระวังความเสี่ยงการเมืองในอิตาลีเมื่อนายกรัฐมนตรีGiuseppe Conte ต้องเผชิญกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ(Vote of No-Confidence) จากวุฒิสภาที่อาจนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ในปีนี้

วันพฤหัสฯนักลงทุนทั่วโลกจะจับตาถ้อยแถลงของประธานเฟดในงานสัมมนาประจำปีที่Jackson Hole เพื่อประเมินมุมมองเฟดต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและโอกาสการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปีนี้

ขณะเดียวกันฝั่งยุโรปก็จะรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางยุโรป(ECB) ด้วยซึ่งต้องจับตาว่าECB จะนำโครงการซื้อสินทรัพย์(APP) กลับมาใช้อีกครั้งหรือไม่

ส่วนในฝั่งเอเชียคาดว่าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางอินโดนีเซีย(BI) จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย(7D Reverse Repo) ที่ระดับ5.75%

และในวันศุกร์กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่นจะเปิดเผยว่าอัตราเงินเฟ้อ(CPI) ในเดือนกรกฎาคมคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ0.5% ชี้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นยังมีความจำเป็นที่จะต้องใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไป