ผบช.ภ.4เตรียมรางวัลนำจับ ล่าโจรปล้นทองหนีเข้าสปป.ลาว

ผบช.ภ.4เตรียมรางวัลนำจับ ล่าโจรปล้นทองหนีเข้าสปป.ลาว

"พล.ต.ท.สุรชัย" ผบช.ภ.4มั่นใจ สองโจรปล้นทองในห้างดังเมืองขอนแก่น ยังอยู่ในสปป.ลาว อยู่ระหว่างประสานตำรวจสปป.ลาวเพื่อจับกุมตัว พร้อมเตรียมรางวัลนำจับมอบให้

ความคืบหน้าเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสั้น เข้าปล้นร้านทองในห้างสรรพสินค้าชื่อดังในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ได้ทองคำรูปพรรณหลายรายการน้ำหนักรวม 437 บาท มูลค่าเกือบ 10 ล้านบาท เหตุเกิดในช่วงค่ำของวันที่ 26 ก.ค.62 ที่ผ่านมา ซึ่งต่อมาตำรวจชุดสืบสวนภาค 4 สามารถติดตามจับกุมตัวนายไพรวัลย์ ญาบัณฑิต อายุ53 ปี และนายสุพจน์ เพชรรังษี อายุ 54 ปี ผู้ร่วมขบวนการที่ทำหน้าที่ในการนำทองไปขายและช่วยเหลือผู้ก่อเหตุเข้าปล้นร้านทอง คือ นายชัยมงคล ใจบุญอุปถัมภ์ อายุ 37 ปี และ ส.อ.เรืองศักดิ์ พันธ์ทอง อดีตทหารพลร่ม และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่น หลบหนีข้ามไปยังประเทศ สปป.ลาว ได้ในพื้นที่ จ.อุดรธานี ระหว่างเดินทางกลับจาก จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 27 ก.ค.62 ที่ผ่านมา

พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (ผบช.ภ.4) กล่าวว่าตำรวจภูธรภาค 4 ยังคงเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของ 2 คนร้ายที่เป็นผู้ลงมือเข้าไปปล้นทองอย่างใกล้ชิด จากการสืบสวนทราบว่า ทั้ง 2 คน ยังกบดานอยู่ใน สปป.ลาว ซึ่งขณะนี้ตำรวจภูธรภาค 4 อยู่ระหว่างการประสานงานกับตำรวจ สปป.ลาว อย่างใกล้ชิด เพื่อทำการจับกุมตัวคนร้าย ส่งให้ทางการไทยนำตัวกลับมาดำเนินคดี โดยมีตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค4ที่มีคุ้นเคยกับตำรวจ สปป.ลาว คอยประสานข้อมูลกันอย่างใกล้ชิด ซึ่งยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ปล่อยปะละเลยคดีนี้ ในขณะเดียวกันก็ได้มีการเตรียมรางวัลนำจับไว้ให้กับทาง สปป.ลาว ด้วย ซึ่งคาดว่าจะสามารถนำตัวทั้ง2คน กลับมาดำเนินคดีได้ในเร็วๆ นี้

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค4 เชื่อว่า ทองคำรูปพรรณที่คนร้ายนำติดตัวข้ามไปฝั่ง สปป.ลาว นั้น น้ำหนักรวมประมาณกว่า200บาท อาจยังเหลืออยู่ เพราะคุณภาพของทองคำของประเทศไทย มีคุณภาพต่ำกว่าทองคำของ สปป.ลาว ดังนั้นการที่คนร้ายจะนำทองคำรูปพรรณที่ปล้นได้ำไปขายที่นั้น จะทำให้ได้ราคาที่ต่ำกว่าซึ่งอาจทำให้คนร้ายนำทองบางส่วนกลับมาขายที่ฝั่งไทยก็เป็นได้ ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้มีการสืบสวนเตรียมการไว้แล้ว (ภาพ-police4.go.th)