รมว.พม. จับมือ 3 ฝ่าย เปิดเวทีส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ เดินหน้ายกร่างกฎหมาย
"จุติ" เปิดมิติใหม่ จับมือ 3 ฝ่าย "รัฐ ประชาชน การเมืองฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล" เปิดเวทีส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ เดินหน้ายกร่างกฎหมาย ให้ทันสมัยประชุมหน้า
นายจุติ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “ส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ : การรับรองเพศสภาพของบุคคลข้ามเพศ” ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกของรัฐบาลชุดนี้ ที่มีรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ เข้ามาบริหารเมื่อเดือนก่อน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรับฟังและแก้ไขปัญหาความเท่าเทียมกันระหว่างเพศ และเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการเสนอร่างกฏหมายความเท่าเทียมระหว่างเพศ เพราะทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม และภาคการเมือง ซึ่งเป็นสามเสาที่สำคัญในการสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อทุกคนในสังคม เพราะหากปราศจากความเห็นพ้องต้องกันของสามเสาหลักนี้ การจัดทำกฎหมายรับรองเพศย่อมเกิดขึ้นได้ยาก ซึ่งภารกิจของกระทรวง พม. จะสำเร็จไม่ได้ถ้าปราศจากความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งกระทรวง พม. ตั้งเป้าว่าจะนำเสนอกฎหมายดังกล่าวให้เข้าสภาภายในการประชุมสภาสมัยหน้า และขอให้ทุกภาคส่วนจะต้องมีการช่วยผลักดันให้เข้าสู่สภาให้ได้ต่อไป
นายกรณ์ จาติกวณิช กล่าวต่อว่า ในส่วนของเกณฑ์การเสนอกฎหมายหรือแก้ไขกฎหมาย ได้มีการร่างกฎหมายออกมาเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ดังนั้น งานในวันนี้เป็นการทำตามขั้นตอนร่างกฎหมายดังกล่าว และเร่งให้ดำเนินการโดยเร็วที่สุด สำหรับกฎหมายดังกล่าวนั้น จะต้องผ่านกระบวนการรับฟังและนำไปวิเคราะห์ผลกระทบทุกภาคสังคมให้ครบถ้วน และนำเสนอผ่านกฤษฎีกา จากนั้นจึงจะนำเข้าสู่สภา ทั้งนี้ จึงได้มีการเชิญผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน และกรรมการจากหลายพรรคการเมืองเข้าร่วมประชุม เพื่อร่วมกันผลักดันร่างกฎหมายเพื่อเสนอเข้าสู่สภาและบังคับใช้ต่อไป
นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า อยากเห็นสังคมไทยก้าวผ่านเรื่องเพศ ซึ่งสังคมจะกำหนดเป็นตักำหนดบทบาทและความคาดหวังบางอย่างให้กับเรา โดยสิ่งที่พรรคพรรคอนาคตใหม่อยากเห็นคือ การที่ทุกคนก้าวข้ามคำว่าพี่อคติของคำว่าเพศ ความหลากหลายทางเพศ โดยเฉพาะเรื่องเอกสารต่างๆ ซึ่งคนส่วนหนึ่งต้องยอมปลอมแปลงเอกสาร ซึ่งเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งถ้าหากรัฐบาลสามารถออกกฎหมายรับรองเพศสภาพได้ ก็จะทำให้คนเหล่านี้ไม่เสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นสิทธิที่พวกเขาควรได้รับ
คุณกฤศธีพัฒน์ โชติฐานิตสกุล ประธานกลุ่มเครือข่ายผู้ชายข้ามเพศแห่งประเทศไทย (TMAT) กล่าวว่า สำหรับการรับรองเพศสภาพ ถือเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะปัญหาคำนำหน้านามที่ถูกต้อง ซึ่งมีผลกระทบต่อการเข้ารักษาโรงพยาบาล การทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ หรือการเดินทางไปต่างประเทศ รวมทั้งการไปเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งถ้าสามารถออกฎหมายความเท่าเทียมทางเพศได้สำเร็จ จะช่วยเหลือทุกคนได้หลายคน จึงอยากให้สังคมช่วยเปิดใจให้กว้าง มองในมิติที่หลากหลาย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-พม. จัดประชุมระดมความคิดเห็นต่อ (ร่าง) ยุทธศาสตร์ พม. 20 ปี
-'จุติ' เข้าพม.วันแรก น้อมนำ 'ศาสตร์พระราชา' นำทางการทำงาน
-พม.เปิดรับลงทะเบียนโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรก