‘ดำรงค์ พิเดช’ตั้ง 3 เงื่อนไขขู่ถอนตัว

‘ดำรงค์ พิเดช’ตั้ง 3 เงื่อนไขขู่ถอนตัว

“ดำรงค์ พิเดช” หน.พรรครักผืนป่าฯ ตั้ง 3 เงื่อนไข เลิกหนุนรัฐบาลหาก “ยกที่ทับลานให้ ส.ป.ก.-โฉนดทองคำ-ตัดถนนคลองลาน-อุ้มผาง” ชี้หากรัฐบาลรับลูกเมื่อไรถอนตัว ปัดต่อรองตำแหน่งเหมือนพรรคเล็ก ลั่นจุดยืนพรรคปกป้องป่า

เมื่อวันที่ 14 ส.ค.62 ที่รัฐสภา นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย (รป.) แถลงว่า จากกรณีที่พรรคการเมืองทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านเสนอนโยบายต่างๆ ที่เกี่ยวกับทรัพยากรป่าไม้ วันนี้พรรครักษ์ผืนป่าฯ มีจุดยืนใน 3 เรื่อง หากรัฐบาลรับลูกดำเนินการตาม เราก็พร้อมถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ได้แก่

1.กรณีผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอแนะให้รัฐบาลดำเนินการมอบที่ดินทำกินของราษฎรในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน และป่าสงวนแห่งชาติ ป่าวังน้ำเขียว ป่าครบุรี ป่าแก่งดินสอ ป่าแก่งใหญ่ และป่าเขาสะโตนของกรมป่าไม้ มอบให้ สปก. ภายใน 120 วัน เพื่อนำไปให้กลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งไปทำประโยชน์นั้น

นายดำรงค์ ระบุว่า วันนี้มีพื้นที่ ส.ป.ก.บวมในพื้นที่อุทยานฯ ทับลานถึง 8,000 ไร่ ที่ไปลักไก่ออก และการ์มองเต้รีสอร์ทก็อยู่ในพื้นที่นี้ ซึ่งที่ผ่านมากรมอุทยานฯ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับ ส.ป.ก.ไปแล้ว ทั้งนี้พื้นที่อุทยานฯ ทับลานได้ผ่อนผัน ทำกินให้กับราษฎรที่ยากจนอยู่แล้ว ตามมติ ครม. 30 มิ.ย. 2541 แต่ไม่ให้กับกลุ่มทุน หรือผู้มีอันจะกินเข้าไปหาผลประโยชน์ โดยอ้างเรื่องความยากจน และได้จับกุมผู้ที่ไปซื้อต่อจากชาวบ้านเป็นส่วนใหญ่

อีกทั้งการดำเนินการใดๆ จะทำในที่ใดที่หนึ่งไม่ได้ จะต้องนำไปปฏิบัติทั่วประเทศ และต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ไม่เช่นนั้นจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรประเทศไม่ว่าจะเป็นป่าไม้และสัตว์ป่าโดยเฉพาะพื้นที่อุทยานฯ ทับลานที่เป็นมรดกโลก

 

2.กรณีโฉนดทองคำ ซึ่งเป็นแนวคิดของนักการเมืองบางพรรค ที่จะนำพื้นที่ปฏิรูปที่ดินไปออกเอกสารสิทธิให้กับเกษตรไปแปลงเป็นโฉนด เพื่อนำไปซื้อขายได้ ซึ่ง ส.ป.ก. ได้นำพื้นที่จากกรมป่าไม้ไป 32 ล้านไร่ แต่ได้มีการเปลี่ยนมือไปแล้วประมาณ 10 ล้านไร่ ดังนั้นราษฎรเหล่านี้หลังจากขายที่ดินไปแล้วก็จะรุกป่าต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด

การแก้ปัญหา ส.ป.ก.ที่ดีที่สุด คือให้ราษฎรที่ขายที่ดินไปแล้ว มาเป็นพยานให้กับรัฐ ว่าขายให้ใครและมอบคืนที่ดินให้กับเจ้าของเดิมที่ขายไปแล้ว มาเป็นพยานให้ โดยมอบที่ดินครึ่งหนึ่งให้เป็นของเจ้าของเดิม และอีกครึ่งหนึ่งเป็นของหลวง เพื่อจัดให้คนที่ไม่มีที่ทำกินต่อไป ที่สำคัญต้องทำแหล่งน้ำในพื้นที่ ส.ป.ก.ให้ทั่วถึง เพื่อผลประโยชน์ของเกษตรกร

3. กรณีคณะกรรมการรณรงค์เร่งรัดโครงการก่อสร้างทางหลวงแผ่นดิน สายคลองลาน-อุ้มผาง ภาคประชาชน (ครคอป.) เสนอรัฐบาลให้ตัดถนน คลางลาน-อุ้มผาง ขึ้นมาใหม่จากที่เคยระงับไปแล้ว โดยมีพรรคการเมืองบางพรรครับขอเสนอไว้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ผลกระทบมหาศาล เพราะปัจจุบันมีกลุ่มชาติพันธุ์อยู่อาศัยจำนวนมาก รวมทั้งผู้อพยพมาใหม่และเก่าบุกรุกป่าต้นน้ำลำธาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการปลูกข้าวโพด 1 แสนกว่าไร่ ในพื้นที่ป่าสงวนฯ อุทยานฯ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ถ้ามีถนนเมื่อไร จะทำให้มีการบุกรุกปลูกพืชเชิงเดี่ยว ทำลายน้ำลำธารมากขึ้น และควบคุมไม่ได้

หัวหน้าพรรครักผืนป่าประเทศไทย ระบุว่า “จากนี้ก็จะรอดูท่าทีของรัฐบาล หากรับลูกเรื่องใดเรื่องหนึ่งใน 3 เรื่องดังกล่าว พรรครักษ์ผืนป่าฯ ก็พร้อมจะถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาลทันที ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้เคยพูดคุยในวิปรัฐบาลแล้ว แต่ยังไม่ได้ลงรายละเอียด และต้องรอดูท่าทีที่ชัดเจนของรัฐบาลก่อน”

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะไปร่วมเป็นฝ่ายค้านกับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์หรือไม่ นายดำรงค์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน ตนต้องการปกป้องทรัพยากรของประเทศ นายมงคลกิตติ์ ก็เป็นฝ่ายค้านอิสระของเขาไป ตนก็เป็นพรรคการเมืองประจำรัฐสภา

ต่อข้อถามว่า การออกมาเคลื่อนไหวนี้ จะเป็นการตีรวนเหมือนกลุ่ม 10 พรรคเล็กหรือไม่ นายดำรงค์ กล่าวว่า ไม่ใช่การตีรวน ตนไม่ต้องการตำแหน่งใดๆ เรื่องทรัพยากรฯ เป็นเรื่องของประเทศชาติ ตนมีสิทธิ์ที่จะออกมาปกป้อง ตามจุดยืนของพรรค