ส.ว.หมวกหลายใบ สถานะทับซ้อน

ส.ว.หมวกหลายใบ สถานะทับซ้อน

“สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาย่อมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมาย หรือความครอบงําใดๆ”

บทบัญญัติมาตรา114 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ระบุถึงการทำหน้าที่ของส.ส.และส.ว.ไว้อย่างชัดเจนที่จะต้องทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง

ทว่าประเด็นนี้ถูกหยิบยกมาพูดถึงทันทีหลังจากที่ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ออกมาแสดงความเห็นทางการเมืองและมีการพาดพิงไปยังบางพรรคการเมืองที่อยู่เบื้องหลังการโฆษณาชวนเชื่อ

ตามมาด้วยคำถามที่ว่า การออกมาแสดงท่าทีของ “บิ๊กแดง” จะถือเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามตามที่ระบุไว้ในมาตรา114 หรือไม่?

จริงอยู่ที่การออกมาแสดงความเห็นดังกล่าวเป็นการแสดงความเห็นในฐานะผู้นำเหล่าทัพ ซึ่งถือเป็นหน่วยงานด้านความมั่นคง แต่ต้องไม่ลืมว่านอกจากบทบาทในฐานะผบ.ทบ.แล้ว ขณะนี้ “บิ๊กแดง” กำลังสวมหมวกอีก1ใบนั่นคือ การเป็นส.ว.โดยตำแหน่ง

อีกประเด็นที่ถูกพูดถึงนั่นคือกรณีของ “บิ๊กเยิ้ม” พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร ส.ว. ซึ่ง “มงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์” หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ระบุว่า เป็นหนึ่งในผู้ประสานกับกลุ่มส.ส.พรรคเล็กเพื่อให้อยู่สนับสนุนรัฐบาลต่อไป

โดยในส่วนของ “บิ๊กเยิ้ม” นั้น นอกเหนือจากเป็นส.ว.และอดีตบิ๊กทบ.แล้ว หลายคนรู้ดีว่า เขาอยู่ในสาย “ประยุทธ์คอนเน็คชั่น” ในฐานะเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 12 จึงไม่แปลกที่การออกมาแสดงท่าทีเช่นนี้จะถูกโยงไปถึงคนในรัฐบาล

ในกรณีของทั้ง “2บิ๊ก” จึงกลายเป็นข้อถกเถียงเกี่ยวกับสถานะที่ทับซ้อนกัน และเป็นคำถามที่รอคำตอบว่า ทำได้-ไม่ได้, เป็นกลาง-ไม่เป็นกลาง ,จะต้องดูที่บทบาทหน้าที่ สถานะหรือดูที่เจตนา?

ล่าสุดมีท่าทีจากทางฝั่ง “สภาสูง” โดยเฉพาะความเห็นมาจากจากรองประธานวุฒิสภา คนที่สอง “ศุภชัย สมเจริญ” ที่ออกมายอมรับว่า “ขณะนี้ส.ว.มีหน้าที่หลายอย่างเหมือนคนสวมหมวกหลายใบดังนั้นต้องพิจารณาเป็นเรื่องๆไป”