ปตท.ขาดทุนสต็อคน้ำมัน ฉุดไตรมาส 2 กำไรหด11%

ปตท.ขาดทุนสต็อคน้ำมัน ฉุดไตรมาส 2 กำไรหด11%

ปตท.กำไรไตรมาส 2 ปีนี้ 2.5 หมื่นล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 11% เหตุขาดทุนสต็อคน้ำมัน

บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) (ปตท.) ส่งงบการเงินเฉพาะบริษัทและงบการเงินรวมสําหรับงวด 3 เดือน และงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 ดังนี้ ในไตรมาส 2 ปี 2562 ปตท. และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายจํานวน 570,322 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2562 จํานวน 19,448 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.5

โดยหลักมาจากรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรมจากการที่บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จํากัด (มหาชน) (GPSC) เข้าซื้อ บริษัท โกลว์ พลังงาน จํากัด (มหาชน) (GLOW), กลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศม กลุ่มธุรกิจน้ํามันจากราคาขาย เฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ํามันดิบ รวมถึงกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติและกลุ่มธุรกิจสํารวจและผลิตปิโตรเลียมจากปริมาณขาย เฉลี่ยและราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น

ในขณะที่กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น มีรายได้โดยรวมลดลง ตามปริมาณขายที่ลดลง จากการปิดซ่อมบํารุงตามแผนใน 202562 ของ บริษัท ไทยออยล์ จํากัด (มหาชน) (TOP) และ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จํากัด (มหาชน) (GC) รวมถึงราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ลดลง

 

ในไตรมาส 2/2562 ปตท. และบริษัทย่อยมีกําไรจากการดําเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคา ต้นทุนทางการเงิน และภาษีเงิน ได้ หรือ EBITDA จํานวน 73,804 ล้านบาท ลดลง 6,719 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.3 โดยหลักจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น รวมถึงธุรกิจน้ํามัน เนื่องจากมีขาดทุนสต็อกน้ํามันเพิ่มขึ้นในไตรมาส 2/2562 ตามราคาน้ํามันดิบที่ปรับลดลงจากสิ้นไตรมาส 1/2562 ที่ 67.2 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลมาอยู่ที่ 64.9 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ณ สิ้น ไตรมาส 2/2562

อีกทั้งส่วนต่างราคาน้ํามัน สําเร็จรูปกับน้ํามันดิบ และส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีทั้งสายโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์ส่วน ใหญ่ก็ลดลงเช่นกัน แม้ว่าผลการดําเนินงานของกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติจะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยหลักจากธุรกิจ จัดหาและจัดจําหน่ายก๊าซฯ และ ธุรกิจโรงแยกก๊าชฯ ตามปริมาณขายโดยรวมที่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับผลการดําเนินงานของ ธุรกิจสํารวจและผลิตปิโตรเลียม ที่ปรับสูงขึ้นจากปริมาณขายเฉลี่ยและราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี และวิศวกรรมที่ปรับตัวดีขึ้น โดยหลักจาก GPSC ที่มีการรับรู้ผลการดําเนินงานของ GLOW เต็มไตรมาสใน ไตรมาส 2/2562 อย่างไรก็ตามในไตรมาส 2/2562 มีการรับรู้ค่าชดเชยเพิ่มเติมตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานฉบับใหม่ของบริษัทในเครือ

สําหรับกําไรสุทธิของ ปตท. และบริษัทย่อยในไตรมาส 2/2562 มีจํานวน 25,938 ล้านบาท ลดลง 3,374 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.5 จาก 102562 ที่มีกําไรสุทธิ จํานวน 29,312 ล้านบาท ตาม EBITDA ที่ลดลงข้างต้น รวมถึงค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจําหน่ายของธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรม และภาษีเงินได้ของธุรกิจสํารวจและผลิตปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้น แม้ว่ามี ผลกําไรจากตราสารอนุพันธ์เพิ่มขึ้นจาก บริษัท ปตท.สํารวจและผลิตปิโตรเลียม จํากัด (มหาชน) (PTTEP) PIT International Trading Pte. Ltd. (PTTT) และบริษัทในกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น รวมถึงผลกําไรจากอัตรา แลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นของเงินกู้สกุลต่างประเทศเพิ่มขึ้น จากการที่เงินบาทแข็งค่ามากกว่าไตรมาสก่อน

ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 (1H2562) ปตท. และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายจํานวน 1,121,196 ล้าน บาท เพิ่มขึ้น 9,437 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.8 จากช่วงครึ่งแรกของปี 2561 (1H2561) โดยหลักเพิ่มขึ้นจากกลุ่มธุรกิจ ก๊าซธรรมชาติ และธุรกิจสํารวจและผลิตปิโตรเลียม จากปริมาณขายเฉลี่ยและราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น และจากธุรกิจ เทคโนโลยีและวิศวกรรมจากการที่ GPSC เข้าซื้อ GLOW แม้ว่ารายได้ขายจากธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น ธุรกิจ การค้าระหว่างประเทศ และธุรกิจน้ํามันลดลง จากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลงตามราคาน้ํามันดิบ และปริมาณขายเฉลี่ยลดลง

ใน 1H2562 ปตท. และบริษัทย่อยมี EBITDA จํานวน 154,327 ล้านบาท ลดลง 36,488 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 19.1 จาก 190,815 ล้านบาท ใน 1H2561 สาเหตุหลักจากผลการดําเนินงานของกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นที่ปรับ ลดลงตามส่วนต่างราคาน้ํามันสําเร็จรูปกับน้ํามันดิบที่ลดลงในเกือบทุกผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะน้ํามันเบนซินและดีเซล รวมถึง กําไรจากสต็อกน้ํามันที่ปรับลดลง ซึ่งเป็นผลจากราคาน้ํามันดิบใน 1H2561 ที่ปรับสูงขึ้นกว่าใน 1H2562 และส่วนต่างราคา ผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์ก็ลดลง เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติที่มี ผลการดําเนินงานลดลง โดยหลักจากธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ ที่กําไรขั้นต้นลดลงตามราคาขายที่อ้างอิงราคาปิโตรเคมีที่ปรับ ลดลงมาก และต้นทุนก๊าซฯที่ปรับสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลการดําเนินงานปกติของธุรกิจสํารวจและผลิตปิโตรเลียม ปรับ เพิ่มขึ้นจากปริมาณขายเฉลี่ยและราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรมเพิ่มขึ้น โดยหลักจากการ เข้าซื้อ GLOW ของ GPSC ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2562 อย่างไรก็ตาม ใน 1H2562 กลุ่ม ปตท. มีค่าใช้จ่ายในการขายและ บริหารเพิ่มขึ้น

สําหรับกําไรสุทธิ ใน1H2562 มีจํานวน 55,250 ล้านบาท ลดลง 14,567 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 20.9 จาก 69,817 ล้านบาท ใน 1H2561 ตาม EBITDA ที่ลดลง และค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้นจาก PTTEP และ GPSC แม้ว่าค่าใช้จ่าย ภาษีเงินได้จะลดลงตามกําไรที่ลดลง และผลขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงของตราสารอนุพันธ์ลดลง รวมถึงมีกําไรจาก อัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นเนื่องจากค่าเงินบาทใน 1H2562 ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ใน 1H2561 ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง

สถานะการเงินของปตท. และบริษัทย่อย ณ 30 มิถุนายน 2562 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 2,381,175 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 จาก ณ 31 ธันวาคม 2561 โดยหลักจากที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการ GLOW ของ GPSC ในขณะที่มีหนี้สินรวมทั้งสิ้น 1,082,065 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 ซึ่งเป็นส่วนของหนี้สินที่มีดอกเบี้ย 621,484 ล้านบาท โดยหลักจากเงินกู้ยืมเพื่อเข้าซื้อกิจการ GLOW ของ GPSC และมีส่วนของผู้ถือหุ้น 1,299,110 ล้านบาท ลดลง ร้อยละ 1.4 โดยหลักจากการจ่ายเงินปันผล และผลกระทบจากการแปลงค่างบการเงินของ PTTEP ตามค่าเงินบาทที่แข็งค่า