ความเสี่ยงระยะสั้นเพิ่มขึ้น หากหลุด 1650 มีโอกาสลงทดสอบ 1620-1633 จุด

ความกังวลต่อสงครามการค้าที่ยืดเยื้อจะกดดันและเร่งภาวะเศรษฐกิจถดถอย (recession) ให้เกิดในเวลาที่เร็วขึ้น สร้างแรงกดดันต่อหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยทั้งพันธบัตรและทองคำสูงขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเกิดสถานการณ์ความรุนแรงในฮ่องกง และผลการเลือกตั้งอาร์เจนติน่า ไม่เป็นไปตามคาด

ค่าเงินหยวนที่อ่อน ยังกดดันต่อเงินทุนไหลออก ธนาคารกลางจีนกำหนดค่าเงินหยวนในระดับต่ำกว่า 7 หยวนต่อเหรียญสหรัฐฯ และอ่อนค่าต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ทั้งนี้ค่าเงินหยวนที่อ่อนกดดันให้สกุลเงินในเอเชียและตลาดเกิดใหม่อ่อนค่าตาม อีกทั้งส่งผลลบต่อหุ้นไทย โดยนักลงทุนต่างชาจิขายพันธบัตรไทย 3 ใน 5 วันทำการ ขณะที่ขายสุทธิหุ้น 4 ใน 5 วันทำการ

ทิศทางการปรับประมาณการกำไรบจ.กดดันหุ้นไทย ประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) ของบริษัทจดทะเบียนใน SET Index ปรับลดลงต่อเนื่องเหลือ 102.73 บาท/หุ้น ลดลงจากจุดสูงสุดเมื่อต้นปีที่ 115.33 บาท/หุ้น ถึง 10.93% โดยหลักเป็นผลจากการลดลงของกำไรกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี การปรับลดลงของประมาณการกำไรสร้างแรงกดดันต่อภาวะการลงทุน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเตือนนักลงทุนในช่วงปลายก.ค.

เก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุน ยังเน้นหุ้นที่ Valuation ถูก หุ้นที่เราชอบ ได้แก่ WHAUP, GUNKUL*, BCPG, EASTW*, BJC*, CPF, TU, GFPT, CPN, NNCL*, MFEC* เป็นต้น / เก็งกำไร หุ้นเล็ก AQUA*, EPCO*, VL* / กลุ่มธนาคาร ลุ้นฟื้นจากประกาศปันผลระหว่างกาลช่วงกลาง ส.ค. SCB, BBL, KBANK โดยควรกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง

ภาพรวมกลยุทธ์: ยังคงมุมมองว่าการฟื้นจาก 1650 ไม่ใช่การกลับตัว ความเสี่ยงของการปรับลดลงหลุด 1650 จุด จะทำให้ตลาดเสียโมเมนตัมเชิงบวกและมีความเสี่ยง downside ระยะสั้นที่ 1600-1620 จุด เพิ่มความระวังต่อความผันผวนในระยะสั้น  // หุ้นแนะนำวันนี้ WHAUP* เก็งกำไร EPCO* (เป้า 4.40 ตัดขาดทุน 3.60), AQUA* (เป้า 0.80 ตัดขาดทุน 0.52)

แนวรับ 1620-1633 จุด / แนวต้าน : 1687 สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

โกลด์แมน เพิ่มมุมมองเชิงลบต่อสงครามการค้า – โกลด์แมน แซคส์ มองสงครามการค้าเสี่ยงมากขึ้น พร้อมปรับลดคาดการณ์ GDP ไตรมาส 4/62 ของสหรัฐฯ ลง 0.2% สู่ระดับ 1.8%

บอนด์ยีลสหรัฐฯ 10 ปี ทำจุดต่ำสุดในรอบ 3 ปี – อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ร่วงหลุด 1.70% ปิดที่ 1.65% ทำจุดต่ำสุดใหม่นับตั้งแต่เดือน ต.ค.59 และต่ำกว่าพันธบัตรระยะสั้น อายุ 3 เดือน ที่ 2% (Inverted Yield Curve)

IMF เตือนเศรษฐกิจจีนอยู่ในภาวะเสี่ยง – IMF เตือน ผลกระทบจากสงครามการค้าที่รุนแรงขึ้น ส่งผลให้ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจของจีนน่าเป็นห่วงมากขึ้น พร้อมแนะเพิ่มความยืดหยุ่นของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

หุ้นกู้อ่วมพิษ 'ตั้งสำรอง' - สมาคมตลาดตราสารหนี้ ชี้เกณฑ์ "ไอเอฟอาร์เอส9" ส่งผล บจ. ที่ถือลงทุนหุ้นกู้ ต้องตั้งด้อยค่าตามเรทติ้งที่ได้รับ เผยอยู่ระหว่างจัดทำอัตราการตั้งสำรอง ย้ำเรทติ้งต่ำต้องสำรองสูง หุ้นกู้ขายยากขึ้น ส่อกระทบต้นทุนบริษัทขนาดเล็ก

สถิติสินเชื่อครัวเรือน ปล่อยกู้เกิน 'ภาระหนี้ 70%' – ธปท.พบพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงทำหนี้ครัวเรือนเปราะบางมากขึ้น เผยยอดปล่อยกู้แก่ผู้ที่มีภาระหนี้ต่อรายได้เกินกว่า 70% มีในทุกหมวด สินเชื่อ พบกลุ่มบ้านแลกเงินมากสุด โดยมีสัดส่วนสูงถึง 46% ขณะ สินเชื่อรถแลกเงินรองลงมา สัดส่วนกว่า 38%

ประเด็นติดตาม: 13 ส.ค. – อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ก.ค.,14 ส.ค. – ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม จีน, ดัชนีค้าปลีก จีน, 15 ส.ค. – ดัชนีค้าปลีกสหรัฐฯ

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)