อีเอ โชว์กำไร Q2/62 พุ่ง 46% เหตุรับรู้รายได้ธุรกิจไฟฟ้าเพิ่ม

อีเอ โชว์กำไร Q2/62 พุ่ง 46% เหตุรับรู้รายได้ธุรกิจไฟฟ้าเพิ่ม

พลังงานบริสุทธิ์ รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 2/62 มีกำไรสุทธิ 1,442 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.45% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 985 ล้านบาท เหตุรายได้จากงานผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 43.38% หลังมีโรงไฟฟ้าพลังงานลมเปิดดำเนินงานเชิงพาณิชย์เพิ่ม

บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 2/62 มีกำไรสุทธิ 1,442 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.45% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 985 ล้านบาท และส่งผลงวด 6 เดือน มีกำไรสุทธิ 2,653 ล้านบาท ลดลง 9.50% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,931 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากงานผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 43.38% หลังโรงไฟฟ้าพลังงานลมเปิดดำเนินงานเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น

ขณะที่โดยไตรมาส 2/62 รายได้จากการขายไบโอดีเซล อยู่ที่ 826.79 ล้านบาท ลดลง 2.57% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะผลผลิตปาล์มที่ล้นตลาด ประกอบกับกาลังผลิตในระบบที่มีอยู่เกินกว่าความต้องการของตลาด ทำให้มีการแข่งขันทางด้านราคา เพื่อชิงส่วนแบ่งในตลาด ทำให้ราคาจำหน่ายลดลง ส่วนรายได้จากการขายกลีเซอรีนบริสทูิ อยู่ที่ 58.18 ล้านบาท ลดลง 23.71% แม้ปริมาณการจาหน่ายสินค้าเพิ่มมากขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว เนื่องจากมีการขยายฐานลูกค้าในประเทศมากขึ้น ในขณะที่ราคาขายมีทิศทางการปรับตัวลดลง

ด้านบริษัทฯ มีโครงการลงทุน สร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียม ไอออน ขนาดกาลังการผลิต 50 กิกะวัตต์ต่อชั่วโมง โดยแบ่งการลงทุนเป็น 2 ระยะ กล่าวคือ ระยะที่ 1 มีขนาดกาลังการผลิต 1 กิกะวัตต์ต่อชั่วโมง และระยะที่ 2 กาลังการผลิตอีก 49 กิกะวัตต์ต่อชั่วโมง โดยปัจจุบันได้เริ่มงานฐานของโรงงาน โดยคาดว่า กำหนดการก่อสร้างโรงงานจะแล้วเสร็จภายในปลายปี 2562 นี้ หลังจากนั้น จะเริ่มติดตั้งเครื่องจักรสาหรับการผลิตแบตเตอรี่ฯ ให้แล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/63 เพื่อที่จะเริ่มการผลิตสาหรับขนาด 1 กิกะวัตต์ต่อชั่วโมง ได้ภายในไตรมาส 2/63

ส่วนโครงการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ณ วันที่ 17 กรกฎาคม 2562 บริษัทได้ขยายการลงทุนในสถานีอัดประจุไฟฟ้าครอบคลุมพื้นที่ถึง 46 จังหวัด โดยติดตั้งหัวชาร์จแบบธรรมดา (Normal charge) และแบบ Quick charge รวมทั้งสิ้น 787 หัวชาร์จ และ บริษัทฯ ยังคงดาเนินโครงการลงทุนติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าร่วมกับพันธมิตรต่อไป

สำหรับโครงการรถยนต์ไฟฟ้า MINE Mobility ได้เริ่มก่อสร้างโรงงานประกอบรถยนต์แล้ว และอยู่ระหว่างการนาเข้าเครื่องจักร และอุปกรณ์ เพื่อใช้ในการประกอบรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าการก่อสร้างโรงงานจะแล้วเสร็จภายในปลายปี 2562 และเริ่มจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในช่วงต้นปี 2563 ตามแผนที่วางไว้ ขณะที่โครงการกรีนดีเซล และ PCM เริ่มก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ในจังหวัดระยอง โดยมีกำหนดเสร็จภายในปลายปี 2562 จัดซื้ออุปกรณ์และเครื่องจักร ซึ่งดำเนินการได้ตามแผน คาดว่าสามารถเริ่มกระบวนการผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 1/63

นอกจากนี้โครงการเรือโดยสารไฟฟ้า ปัจจุบัน ได้เริ่มการขึ้นโครงกระดูกงู ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการขึ้นโครงของเรือ เพื่อเริ่มการผลิตเรือไฟฟ้า สำหรับใช้ทดลองวิ่งในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้ จำนวน 2 ลำ ขณะเดียวกันได้เตรียมแผนการว่าจ้างผลิตและประกอบเรือไฟฟ้าอีกจานวน 40 ลำ ระยะที่ 1 ผลิตและประกอบเรือโดยสารไฟฟ้า จานวน 20 ลำแรก แล้วเสร็จภายในปลายปี 2562 และระยะที่ 2 ผลิตและประกอบเรือโดยสารไฟฟ้าอีก 20 ลำ กำหนดแล้วเสร็จภายในต้นปี 2563