‘ประยุทธ์’ ส่งสารไทม์แคปซูลถึงอาเซียน

‘ประยุทธ์’ ส่งสารไทม์แคปซูลถึงอาเซียน

ร่วมเผชิญหน้าปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่5

ในงานเฉลิมฉลองวันก่อตั้งสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนเดย์ครบรอบปีที่52 ในวันที่ 8 ส.ค. 2562ที่สำนักงานเลขาธิการอาเซียน กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ได้จัดกิจกรรมพิเศษ 2 ส่วนใหญ่ๆ สอดรับกับแนวทางความร่วมมืออาเซียนในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีและนวัตกรรม ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญกับทุกวัย รวมไปถึงการกำหนดทิศทางอาเซียนต่อไปในอนาคต

ส่วนแรกคือ พิธีส่งสารผู้นำอาเซียนไปยังคนรุ่นใหม่ในโลกแห่งอนาคต ซึ่งสำนักงานเลขาธิการอาเซียนร่วมกับประเทศไทย ในฐานะประธานอาเซียนปีนี้ ผุดแนวคิดนี้ขึ้นมา เพื่อให้ผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนได้แสดงทัศนะต่อความร่วมมืออาเซียนในอีก23 ปีข้างหน้า

ดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะตัวแทนประเทศไทยที่ได้เดินทางไปร่วมงานดังกล่าว และเป็นผู้ถือสารของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใส่บรรจุไว้ในไทม์แคปซูลร่วมกับสารผู้นำอีก 9 ประเทศ นำไปมอบให้กับลิม จ๊อก ฮอย เลขาธิการอาเซียน เพื่อจัดเก็บรักษาไว้ในแท่นศิลาภายในอาคารสำนักงานอาเซียนหลังใหม่และจะนำสารของผู้นำมาเปิดเผยในวันอาเซียนเดย์ครบรอบ 75 ปี

ภายในสารดังกล่าว มีภาพ พล.อ.ประยุทธ์ประกอบร่วมกับเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษ ระบุว่าประเทศไทยเป็นจุดกำเนิดของอาเซียนเมื่อ75 ปีที่แล้ว ในช่วงเวลานั้นผู้ก่อตั้งอาเซียนต่างมีความฝันที่จะรักษาสันติสุข เสรีภาพ และความมั่งคั่งให้กับประชาชนในภูมิภาค 

และจากวันนั้นจนถึงวันครบรอบ 52 ปีอาเซียน ในปี2562บรรพบุรุษและคนรุ่นหลังอย่างพวกเรา ต่างได้มุ่งมั่น เพื่อความฝันร่วมกันของอาเซียน นับจากปฏิญญากรุงเทพปี 2510จนก้าวย่างสู่กฎบัตรอาเซียน และวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนในปี 2568เราได้ช่วยกันวางรากฐานของประชาคมอาเซียน และประเทศไทยก็มีความภาคภูมิใจที่ร่วมส่งข้อความนี้ พร้อมด้วยข้อความของผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนถูกบรรจุลงแคปซูลในช่วงที่ไทยเป็นประธานอาเซียน ภายใต้หัวข้อ “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน”

ในสารของพล.อ.ประยุทธ์ ยังบอกได้ระบุถึงจินตนาการที่มีต่อภูมิภาคและโลกว่า คงจะมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในปี 2585 เมื่ออาเซียนฉลองครบรอบ 75ปี แต่ก็เชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงนั้นจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นด้วยความเชื่อมั่นในอาเซียน

“อาเซียนอาจมีวาระสำคัญรูปแบบใหม่จากการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมโลก หรือจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 5 ซึ่งเทคโนโลยีรูปแบบใหม่จะสร้างความเชื่อมโยงและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนมากยิ่งขึ้น เราอาจมีอาเซียนที่ไร้พรมแดนมากขึ้น ที่ซึ่งประชาชน ผลิตภัณฑ์ และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์จะไหลเวียนข้ามประเทศด้วยความสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น รวมทั้งมหาสมุทร อากาศ ผืนป่า และสัตว์ป่าของพวกเรา จะได้รับการรักษาและปกป้องโดยผ่านความมุ่งมั่นที่ยั่งยืนเพื่อให้ชนรุ่นหลังในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ชื่นชม” จดหมายของพล.อ.ประยุทธ์ระบุ

นอกจากนี้ ประชาคมอาเซียนอาจเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมระดับภูมิภาคที่ขยายกว้างขึ้น แต่ยังคงรักษาอัตลักษณ์ของอาเซียนบนพื้นฐานของการไว้เนื้อเชื่อใจผลประโยชน์ร่วมกัน และความเคารพซึ่งกันและกัน

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ประเทศไทยในฐานะสมาชิกอาเซียน หวังว่า ประชาคมอาเซียนจะเป็นประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางตลอดไป โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และมองไปสู่อนาคตให้มากขึ้น ซึ่งจะสามารถดึงความแข็งแกร่งจากความหลากหลายและแรงบันดาลใจจากวิสัยทัศน์ร่วมกันเพื่อความสงบสุขและความยั่งยืนของภูมิภาค

สำหรับกิจกรรมที่สอง เป็นการเปิดอาคารที่ทำการแห่งใหม่ภายในสำนักงานเลขาธิการอาเซียน ซึ่งประธานาธิบดีโจโก วิโดโดของอินโดนีเซียได้ทำการส่งมอบกุญแจเปรียบเสมือนมอบสิทธิอาคารหลังใหม่ให้กับลิม จ๊อก ฮอยอาคารหลังนี้รัฐบาลอินโดนีเซียสนับสนุนงบประมาณ 42.5 ล้านดอลลาร์ เพื่อก่อสร้างภายใต้คอนเซ็ปต์ “Green and Inclusive” หรือการออกแบบให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเน้นการประหยัดพลังงานโดยที่ชั้นล่างไม่มีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ แต่รักษาอุณหภูมิให้คงที่ 25 องศาเซลเซียส

อาคารหลังใหม่ประกอบด้วย 2 อาคาร มีความสูง 16 ชั้นเท่ากันและยังมีสะพานเชื่อมต่อเข้าหากันแบบไร้คานด้านบน พื้นที่ใช้สอย44,047 ตร.ม. หรือใหญ่เป็น4 เท่าของอาคารสำนักงานหลังเดิม

ประธานาธิบดีโจโกวี กล่าวว่า อาคารที่ทำการเลขาธิการอาเซียนแห่งใหม่ จะเป็นสถานที่ทำงานและประชุมพบปะกันระหว่างเลขาธิการอาเซียนกับคณะทูตถาวรจากประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ชาติ เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนความร่วมมืออาเซียนให้ก้าวหน้า และมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมไปถึงยังเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้วัฒนธรรมอาเซียนอีกด้วย

นอกจากนี้  การก่อตั้งอาคารแห่งนี้ยังถือเป็นสัญลักษณ์ของศูนย์รวมอาเซียนซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างความเป็นแกนกลางของอาเซียนและส่งเสริมความรับรู้ร่วมกันของอัตลักษณ์อาเซียนร่วมกัน