รับนโยบายรมว.ศธ.เน้นพัฒนาครูสพฐ.

รับนโยบายรมว.ศธ.เน้นพัฒนาครูสพฐ.

บอร์ดกพฐ.รับลูกรมว.ศธ. เน้นพัฒนาครู ควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก เผยมีโรงเรียนขนาดเล็กแถวจ.อุบลราชธานี ขอเปิดใหม่ เหตุมีอัตราครู อัตราผอ. กำชับกศจ.อนุมัติเปิดโรงเรียนขนาดเล็กใหม่ระวังเรื่องเด็กน้อยลง ขอให้ดูเรื่องคุณภาพของเด็ก พร้อมยกเลิกโรงเรียนขนาดเล็ก 9


นายเอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (บอร์ดกพฐ.) กล่าวภายหลังการประชุมบอร์ดกพฐ.ว่า นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ได้มอบนโยบายให้การพัฒนาการศึกษาทั้งระบบ เน้นเรื่องคุณภาพเด็กและพัฒนาครู โดยเฉพาะเรื่องของการพัฒนาครู ขอให้ทางบอร์ดกพฐ.หาขั้นตอน หรือถ้านโยบายเดิม อย่าง คูปองครูที่มีปัญหาอยู่ส่วนที่ดีก็อาจจะดำเนินการต่อ แต่ส่วนที่ไม่ดีก็ต้องปรับปรุง หรืออาจจะหารูปแบบอื่นมาใช้ในการพัฒนาครู เปิดโอกาสให้ครูได้เรียนรู้ พัฒนาตนเองด้วยแพลตฟอร์มที่เป็นเทคโนโลยีด้านดิจิตอลมากขึ้น และถ้าครูได้รับการพัฒนาดีขึ้นถึงระดับหนึ่งต้องมีโอกาสได้เลื่อนวิทยฐานะแต่ต้องตามความสามารถที่เพิ่มขึ้น นอกจากนั้น ขณะนี้ ทางรมว.ศธ.ได้ประสานไปทางนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (รมว.อว.) ในการผลิตครูให้มีทักษะความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ เนื่องจากว่าการพัฒนาครูจะมาอบรมเพิ่มเติมตอนทำงานแล้วอาจไม่เพียงพอ ต้องเริ่มตั้งแต่เรียนจบมหาวิทยาลัย เพราะหากครูไม่มีทักษะภาษาอังกฤษ จะไม่มีความรู้ทันต่อเหตุการณ์ และจะล้าสมัยในการสอน ซึ่งหลังจากนี้ สพฐ.จะดูแลในเรื่องการพัฒนาครู และการส่งเสริมความก้าวหน้าให้แก่ครูสพฐ. ตามนโยบายของรมว.ศธ.


นายเอกชัย กล่าวต่อว่าสำหรับเรื่องการควบรวมของสถานศึกษานั้น รมว.ศธ.มองว่าถ้าควบรวมแล้วมีคุณภาพดีขึ้นก็ควรจะทำ และขอให้เน้นเรื่องการใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งเรื่องงบประมาณคาดว่าปีนี้จะปรับอะไรได้ไม่มาก แต่ปีงบประมาณหน้าจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ได้รับรายงานว่าทางสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ได้มีการอนุมัติให้ โรงเรียนในจ.อุบลราชธานี ที่เคยควบรวมไปเมื่อ 5 ปีที่แล้วกลับมาเปิดใหม่อีกครั้ง และได้มีการแต่งตั้งผู้อำนวยการลงไปในพื้นที่ ซึ่งทางผู้อำนวยการก็ได้ระดมทุนจากชาวบ้านสร้างอาคารเรียน ส่งผลให้เด็กกลับเข้ามาเรียนอีกครั้ง โดยปัจจุบันมีนักเรียน 47 คน ซึ่งทางที่ประชุมบอร์ดกพฐ.มองว่าเด็กในอนาคตลดลงอย่างแน่นอน และลดลง 30% ถ้าจะอนุมัติในเรื่องดังกล่าวควรต้องระวังเรื่องเด็กน้อยลง ขอให้ดูเรื่องคุณภาพของเด็ก เพราะจากข้อมูลของโรงเรียนเอง พบว่า อีก 3 ปี ตั้งแต่ ปี 2565-2567 จะมีเด็กเข้าเรียนป. 1 เพียง4-6 คน ถ้าไม่ระวังเรื่องนี้ ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กก็จะกลับมาอีก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ มีการเลิกสถานศึกษา 9 แห่ง และขอไปเรียนรวม 4 แห่ง โดยหลักที่จะทำให้ไม่มีปัญหาคือ ต้องลดขนาดห้องเรียน และครูต้องครบชั้นเรียน แต่ตอนนี้ครูยังไม่ครบชั้นเรียน