จี้ 'ผบช.น.' ฟันร้านเหล้าย่านดัง ฝ่าฝืนโซนนิ่ง-มอมเมาเยาวชน

จี้ 'ผบช.น.' ฟันร้านเหล้าย่านดัง ฝ่าฝืนโซนนิ่ง-มอมเมาเยาวชน

เครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา-เครือข่ายเยาวชน สวมหน้ากากขาว ยื่นหนังสือถึง "ผบช.น." จัดการร้านเหล้าย่านวงศ์สว่าง ให้บริการเยาวชน ชี้พื้นที่อยู่ในเขตโซนนิ่งตามคำสั่งคสช. หากทำผิดต้องถูกปิดถาวร

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 9 สิงหาคม นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา พร้อมด้วย เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัย และนักศึกษาจากสถาบันในกรุงเทพฯ สวมหน้ากากขาว รวมกว่า 30 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. ขอให้ตรวจสอบสถานประกอบการภายในซอยวงศ์สว่าง 11 ซึ่งอยู่ในพื้นที่โซนนิ่ง หลังพบว่ามีการขายสุราให้นักศึกษาอายุต่ำกว่า 20 ปี จนทำให้เกิดเหตุแทงนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านพระราม 7 เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา

นายคำรณ เปิดเผยว่า จากกรณีนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านพระราม 7 ถูกนักศึกษาอาชีวะ ปี 1-3 และศิษย์เก่าสถาบันอาชีวะแห่งหนึ่ง ย่านพระราม 7 อายุ 16-17 ปี ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์กลับจากดื่มสุราจากร้านขายสุราภายในซอยวงศ์สว่าง 11 และพกอาวุธมีดแทงที่ลำคอนักศึกษาคนดังกล่าวจนเสียชีวิต โดยหลังเกิดเราได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่า พื้นที่ที่เกิดเหตุอยู่ในโซนนิ่งตามคำสั่งของคสช. 22/2558 ที่ว่าด้วยเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหาร้านเหล้ารอบสถานศึกษา และปัญหาเด็กแว้น ซึ่งกำหนดพื้นที่ควบคุมหรือโซนนิ่งร้านขายสุราทุกรูปแบบ ห้ามมิให้ทำผิดกฎหมาย ในเรื่องหลักๆเช่น ห้ามขายสุราให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี ห้ามขายเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด และตามคำสั่งนี้หากอยู่ในพื้นที่โซนนิ่ง สถานประกอบการที่ทำผิดจะต้องถูกสั่งปิดถาวร

ตนและเครือข่ายเฝ้าระวังสุรา จึงเดินทางมายื่นหนังสือเพื่อเสนอให้ทาง ผบช.น. พิจารณาโทษต่อสถานประกอบการที่ปล่อยให้เด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปใช้บริการ เพราะเมื่อสถานประกอบการที่อยู่ในเขตโซนนิ่งกระทำความผิด ควรจะต้องถูกสั่งปิดถาวรตามคำสั่งคสช.

นายคำรณ เปิดเผยต่อไปว่า ที่เดินทางมาวันนี้ ยังมีวัตถุประสงค์อีก 3 ประการ 1.ขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ประกอบการ ที่ปล่อยให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีมาใช้บริการ ซึ่งมีความผิดตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มและแอลกอฮอล์ มาตรา 29 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.ขอให้ดำเนินการสั่งปิดร้านที่ขายสุราให้เยาวชน เพราะอยู่ในเขตโซนนิ่งตามคำสั่งคสช. 3.ขอให้สั่งกำชับไปยังสถานีตำรวจนครบาลทุกแห่ง ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงเปิดเทอม ให้เข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย โดยเน้นร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือสถานบริการรอบสถานศึกษาที่กฎหมายมีการควบคุมเป็นพิเศษ รวมทั้ง สื่อสารทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการในเรื่องข้อกฎหมายกับระเบียบต่างๆ โดยเฉพาะร้านที่อยู่ในโซนนิ่ง ตนมองว่า หัวใจสำคัญในการคุ้มครองเด็กเยาวชน คือ เจ้าหน้าที่เข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย อีกทั้ง หากร้านที่อยู่ในโซนนิ่งทำผิดแล้วไม่ถูกดำเนินคดี จะเป็นสาเหตุของปัญหาอื่นๆ เช่น ทะเลาะวิวาทตามมาได้

เบื้องต้น พ.ต.อ.สมฤกษ์ ชัยสุกัญญาสันต์ ผกก.ศฝร.บช.น.ในฐานะนายตำรวจเวรชั้นผู้ใหญ่ เป็นตัวแทนรับหนังสือจากนายคำรณ ก่อนดำเนินการนำเรียนผู้บังคับบัญชาพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป