บอนด์ยีลด์มีเสถียรภาพหนุนดาวโจนส์พุ่งกว่า 300 จุด

บอนด์ยีลด์มีเสถียรภาพหนุนดาวโจนส์พุ่งกว่า 300 จุด

นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางหลายแห่ง เช่น อินเดีย นิวซีแลนด์ และไทย พากันปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ก็เป็นอีกปัจจัยที่กดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตร

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (8ส.ค.)ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 300 จุด และสามารถลดช่วงติดลบที่ทำไว้ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ โดยได้ปัจจัยบวกจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่เริ่มมีเสถียรภาพ นอกจากนี้ ตัวเลขการค้าของจีน และตัวเลขผู้ยืนขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่ดีกว่าคาด ก็ได้เป็นปัจจัยบวกต่อตลาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 371.12 จุดหรือ 1.43% ปิดที่ 26,378.19 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 54.11 จุดหรือ 1.88% ปิดที่ 2,938.09 จุดและดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวขึ้น 176.33 จุดหรือ 2.24% ปิดที่ 8,039.16 จุด

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้นหลังจากดิ่งลงอย่างหนักวันก่อน โดยเมื่อเวลา 20.17 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 1.753% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.275%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องเมื่อวานนี้ โดยหลุดระดับ 1.60% แตะระดับ 1.595% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2559 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.13% ซึ่งใกล้กับระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางความกังวลที่ว่าการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

ขณะที่สำนักงานศุลกากรจีน รายงานว่า ยอดนำเข้าเดือนก.ค.ปรับตัวลง 5.6% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะร่วงลง 9.0% ขณะที่ยอดส่งออกเดือนก.ค.ดีดตัวขึ้น 3.3% ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.0%