'สมศักดิ์' ท้าพิสูจน์ประสิทธิภาพกำไร EM 9ส.ค.

'สมศักดิ์' ท้าพิสูจน์ประสิทธิภาพกำไร EM 9ส.ค.

“สมศักดิ์” ลั่นไม่ปล่อยให้ซื้อขายตำแหน่งในกระทรวง พร้อมให้รางวัลคนแจ้งเบาะแส ลงโทษคนผิดให้เป็นแบบอย่าง เผย 9 ส.ค.ท้าพิสูจน์กำไร EM บกพร่องจริงหรือไม่

เมื่อวันที่ 7 ส.ค.62 ที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี กระแสข่าวการโยกย้ายตำแหน่งในกระทรวงยุติธรรมมีการซื้อตำแหน่งว่า การเลื่อนขั้นราชการระดับ 7-8 ของกระทรวงยุติธรรมมีผู้สมัคร 1,300 คนเศษ แต่เปิดรับตำแหน่งเพียงแค่ 30 คนดังนั้นจึงดูจะวุ่นวาย เพราะมีตำแหน่งน้อยแต่มีผู้ต้องการมากมาย ทำให้มีคนเข้าใจผิดว่าจะมีการเสียเงินเสียทอง ซึ่งตนมั่นใจว่าไม่มีการใช้เงินซื้อตำแหน่ง และจะไม่ยอมปล่อยให้มีอย่างแน่นอน คนที่ได้ตำแหน่งต้องมีความรู้ความสามารถ ผ่านการสอบแข่งขันเข้ามาด้วยตัวเอง และทำงานให้กับราชการได้ ซึ่งหากมีใครพบเห็นมีเบาะแสต่างๆ สามารถแจ้งเข้ามาได้เลย เราจะมีรางวัลให้ด้วย ตนจะไม่ยอมให้เกิดการซื้อขายตำแหน่งในกระทรวงเด็ดขาด หากมีคงต้องลงโทษลงแส้กันหนักๆให้เห็นเป็นตัวอย่าง

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของข้าราชการกระทรวงยุติธรรมในระดับ 10 จะมี 4 ตำแหน่งทำจะว่างลงจากการเกษียณอายุราชการ ซึ่งคนที่จะมาแทนนั้นต้องคล่องตัวทำงานตามนโยบายของรัฐบาลได้ ทั้งนี้เมื่อวันก่อนตนได้ประชุมกับส่วนราชการ โดยสั่งส่วนราชการให้รีบเร่งทำงานเพื่อประชาชน และทำให้ประชาชนเห็นว่าเราจะมีงานอะไรที่เป็นรูปธรรมแก่ประชาชนบ้าง

นายสมศักดิ์ กล่าวยังถึงกรณีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวผู้กระทำผิด หรือกำไร EM ว่า ตนได้มีการหารือกับส่วนราชการ เรื่องการลดจำนวนนักโทษไม่เด็ดขาดในเรือนจำ หากสามารถใช้กำไร EM ได้ จะสามารถผ่อนคลายความหนาแน่นในเรือนจำ ซึ่ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก ส่วนปัญหาของเก่าที่กำลังทดลองใช้ ที่มีการร้องเรียนถึงมาตราฐานและปัญหาในวันที่ 9 ส.ค. เวลา 11.00 น. ที่กรมคุมประพฤติ ตนจะพิสูจน์เรื่องนี้ด้วยตัวเอง ว่าสามารถถอดได้ตามที่มีการร้องเรียนอย่างไร สัญญาณติดตามมีปัญหาจริงหรือไม่ จะแก้ไขยังไง อุปกรณ์จะเดินต่อไปข้างหน้าได้หรือไม่ จะพิสูจน์ให้ชัดเจน ดังนั้นหากใครสงสัย ขอให้ตามไปดูที่ได้กรมคุมประพฤติในวันและเวลาดังกล่าว

เมื่อถามถึงกรณีปัญหาการสร้างโรงพยายาล ของกรมราชทัณฑ์ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คิดว่าต้องมีการเปิดประมูลและประกวดราคา แต่เรื่องนี้เป็นส่วนงานของกระทรวงการคลัง อยู่ที่กรมบัญชีกลาง ต้องดูการเปิดประมูลและประกวดราคาว่ามีอะไรหรือไม่ ในทางส่วนกระทรวงยุติธรรมไม่น่ามีอะไร