LPH - ถือ

LPH - ถือ

ประมาณการ 2Q62: ผลประกอบการจะดีขึ้น YoY

Event

ประมาณการ 2Q62

lmpact

คาดว่าผลประกอบการ 2Q62 จะดีขึ้น YoY

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ LPH ใน 2Q62 จะอยู่ที่ 20 ล้านบาท (+30.3% YoY, -43.7% QoQ) แต่คิดเป็นเพียง 16% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเราที่ 123 ล้านบาท โดยเราคาดว่าบริษัทจะตั้งสำรองพิเศษสำหรับผลประโยชน์พนักงานตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานใหม่ 10 ล้านบาทใน 2Q62 ซึ่งหากไม่รวมรายการพิเศษรายการนี้ กำไรปกติจะอยู่ที่ 30 ล้านบาท (+95.6% YoY, -15.5% QoQ) ถึงแม้ว่า 2Q จะเป็นไตรมาสที่ผลประกอบการมักจะอ่อนแอตามฤดูกาล แต่เรามองว่าผลการดำเนินงานจากธุรกิจหลักก็ยังมีแนวโน้มดีขึ้น YoY ซึ่งสะท้อนถึง i) การเพิ่มรายได้ผ่านธุรกิจประเภทใหม่ (ตรวจสุขภาพนอกสถานที่) และ ii) ผลการดำเนินงานของ AMARC ที่ดีขึ้นจากปีก่อน เราคาดว่ารายได้ของ LPH จะอยู่ที่ 387 ล้านบาท (+5.0% YoY, +1.2% QoQ) ในขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ 24.0% จาก 23.8% ใน 2Q61 และ 25.7% ใน 1Q62 และคาดว่าสัดส่วน SG&A/ยอดขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 18.0% จาก 16.4% ใน 2Q61 และ 15.6% ใน 1Q62 ซึ่งเป็นไปตามผลประโยชน์พนักงานที่เพิ่มขึ้น

เข้าสู่ฤดูที่ผลประกอบการจะแข็งแกร่งใน 3Q

สำหรับ 1H62F เราพบว่า กำไรสุทธิที่คาดการณ์ไว้เทียบเท่ากับ 45% ของประมาณการทั้งปี ส่วนในงวด 3Q62 เราเชื่อว่าผลการดำเนินงานของ LPH จะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ QoQ เนื่องจากเป็นช่วงที่ผลประกอบการแข็งแกร่งตามฤดูกาล และมีการรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากบริการตรวจสุขภาพ

แนวโน้มระยะยาวดูดีขึ้น

ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการของบริษัทได้อนุมัติเกณฑ์การลงทุนเพื่อขยาย i) การให้บริการรักษาพยาบาลและตรวจสุขภาพนอกสถานที่ และ ii) การตรวจความเสี่ยงที่โรงงาน โดยลงทุนประมาณ 62.5 ล้านบาทในบริษัทด้าน healthcare สองแห่งในจังหวัดอยุธยา (โรงพยาบาลเอเชีย และบริษัทลูก) แต่อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานของโครงการพวกนี้จะเริ่มสะท้อนในผลประกอบการของ LPH ภายในปี FY65 หลังจากที่บริษัทปรับโครงสร้างภายในเสร็จเรียบร้อย ซึ่งได้แก่ การเพิ่มจำนวนเตียงผู้ป่วยอีก 30 เตียง, การขออนุญาต EIA, และการที่อาจจะมีการซื้อกิจการระหว่างกัน นอกจากนี้ เรามองว่าผลประกอบการโดยรวมของบริษัทก็มีแนวโน้มที่จะดีขึ้นจาก i) การที่รถไฟฟ้าสายสีเหลืองก่อสร้างเสร็จ และ ii) มีการพัฒนา ‘Excellence Centers’ ขึ้นมาสิบแห่ง

Valuation & Action

เรายังคงประมาณการกำไรปี FY62-63 เอาไว้ที่ 123 ล้านบาท (-21.4% YoY) และ 135 ล้านบาท (+9.5% YoY) ตามลำดับ โดยยังคงราคาเป้าหมายปี 2562 เอาไว้ที่ 6.80 บาท (DCF; WACC ที่ 8% และ TG ที่ 3.0%) ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ ถือ

Risks

การแทรกแซงของรัฐบาล, ปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองรอบใหม่ของไทย, เกิดเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่