พิษเงินทอนวัด! ปปช.ฟัน 'พนม ศรศิลป์' ร่ำรวยผิดปกติ 216 ล้าน

พิษเงินทอนวัด! ปปช.ฟัน 'พนม ศรศิลป์' ร่ำรวยผิดปกติ 216 ล้าน

ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด "พนม ศรศิลป์" เมื่อครั้งดํารงตําแหน่งผู้อํานวยการ สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่ํารวยผิดปกติ จํานวน 216 ล้านบาท

วันนี้ (6 สิงหาคม 2562) นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะ โฆษกสํานักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่า นายพนม ศรศิลป์ เมื่อครั้งดํารงตําแหน่งผู้อํานวยการสํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับ การทุจริตในการเบิกจ่ายเงินงบประมาณอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์ที่จัดสรรให้วัดพนัญเชิงวรวิหาร ประจําปีงบประมาณ 2557 และประจําปีงบประมาณ 2558 และจากการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายพนม ศรศิลป์ ที่ได้ยื่นไว้ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตําแหน่งผู้อํานวยการสํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2557 พบว่าในช่วงปี พ.ศ. 2552 - พ.ศ. 2561 นายพนม ศรศิลป์ และนางนิสา ศรศิลป์ คู่สมรส มีการนําฝากเงินและซื้อหุ้นในสหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ จํากัด สหกรณ์ออมทรัพย์ครู อุบลราชธานี จํากัด รวมทั้งมีการซื้อที่ดิน โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง และยานพาหนะเป็นจํานวนมาก


คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีเหตุอันควรสงสัยว่า นายพนม ศรศิลป์ มีพฤติการณ์ร่ํารวยผิดปกติ จึงได้มีคําสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน โดยมีนางสาวสุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธาน อนุกรรมการไต่สวน คณะอนุกรรมการไต่สวนได้ดําเนินการรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว ผลการไต่สวนข้อเท็จจริง ปรากฏว่าพบเงินฝากและทรัพย์สินต่างๆ ของนายพนม ศรศิลป์ และบุคคลใกล้ชิด ประกอบด้วย นางนิสา ศรศิลป์ (คู่สมรส) นางจรินรัตน์ แซ่ตั้ง และนางสมพิศ สุทธิบุญ (ภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส) รวมทั้งบุตรและ ญาติพี่น้อง ซึ่งบุคคลดังกล่าวไม่สามารถพิสูจน์ที่มาของทรัพย์สินดังกล่าวได้ ดังนี้
1. เงินฝาก จํานวน 16 แห่ง เป็นเงิน 163,022,595.05 บาท 2. เงินลงทุน จํานวน 8 แห่ง มูลค่า 22,470,000 บาท 3. ที่ดินตั้งอยู่ในท้องที่จังหวัดอุดรธานี จํานวน 7 แปลง มูลค่า 5,119,400 บาท
4. บ้าน พร้อมที่ดิน จํานวน 2 หลัง ตั้งอยู่ในจังหวัดอุดรธานี และจังหวัดนครปฐม รวมมูลค่า 805,919 บาท
5. ห้องชุดตั้งอยู่ในจังหวัดอุดรธานี 1 ห้อง และจังหวัดปทุมธานี 2 ห้อง รวม 3 ห้อง มูลค่า 3,960,000 บาท
6. รถยนต์ จํานวน 9 คัน รวมมูลค่า 4,931,200 บาท 7. กรมธรรม์ประกันชีวิต จํานวน 4 กรมธรรม์ รวมมูลค่า 828,489 บาท 8. เงินที่นําไปชําระหนี้เงินกู้สถาบันการเงิน จํานวน 4 แห่ง เป็นเงิน 14,925,216.49 บาท
รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งสิ้นจํานวน 216,062,819.54 บาท (คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีคําสั่งอายัด ทรัพย์สินไว้เป็นการชั่วคราว จํานวน 44,108,113.29 บาท)


คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาแล้วมีมติให้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด ยื่นคําร้องต่อศาลอาญา คดีทุจริตและประพฤติมิชอบซึ่งมีเขตอํานาจพิจารณาพิพากษาคดี ให้มีคําพิพากษาหรือคําสั่งเพื่อขอให้ทรัพย์สิน ดังกล่าว ตกเป็นของแผ่นดิน ตามมาตรา 122 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ต่อไป