ยืมเงินญาติ41ล้านชดใช้เหยื่อ9ศพ อธิบดีฯศาลแพ่งรออีก8แสน-ครบจ่ายทันที

ยืมเงินญาติ41ล้านชดใช้เหยื่อ9ศพ อธิบดีฯศาลแพ่งรออีก8แสน-ครบจ่ายทันที

ครอบครัวสาว พ. ยืมเงินญาติ41ล้าน มอบอำนาจ "หนุ่ม กรรชัย" - ทนาย นำแคชเชียร์เช็คกว่า 41 ล้าน มอบอธิบดีศาลแพ่งชดใช้ญาติเหยื่อชนรถตู้ดับ-เจ็บ ขาดอีก 8 แสน รอวางเพิ่ม 28 ส.ค.นี้ ถ้าครบจ่ายทันที

ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ผ่านมา นายกรรชัย กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม นักแสดงและพิธีกรรายการข่าวช่อง 3 รับมอบอำนาจจากครอบครัว นางสาว พ. จำเลยในคดีแพ่งที่ศาลฎีกา มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ชดใช้เงินกับครอบครัวและญาติคนขับรถตู้กับผู้โดยสารเสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ 28 ราย เดินทางมาพร้อมทนายความ เพื่อนำเงินชดใช้ค่าเสียหายมาวางศาล จากเหตุ นางสาว พ. ปัจจุบันอายุ 25 ปีเศษ ขณะเป็นเยาวชนอายุ 16 ปี ได้ขับรถยนต์ซีวิค เฉี่ยวชนกับรถตู้โดยสารสายธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต-หมอชิตจนคคนขับรถตู้และผู้โดยสานเสียชีวิต 9 ราย บาดเจ็บอีก 6 ราย

ยืมเงินญาติ41ล้านชดใช้เหยื่อ9ศพ อธิบดีฯศาลแพ่งรออีก8แสน-ครบจ่ายทันที

โดยเมื่อคำนวณหนี้ที่ต้องชำระตามคำพิพากษาศาลฎีกาแล้ว เป็นต้นเงินตามจำนวน 25,781,137 บาท ส่วนดอกเบี้ย คำนวณจนถึงวันที่ 6 ส.ค.62 เป็นเงินจำนวน 16,650,023.40 บาท และค่าทนายความ ที่ศาลกำหนดชั้นฎีกา รวมกับค่าฤชาธรรมเนียมใช้แทนโจทก์ชั้นฎีกาอีกจำนวน 186,650 บาท , ค่าขึ้นศาลใช้แทนในนามโจทก์ที่ 17 ด้วยจำนวน 20,000 บาท รวมเป็นเงินที่ฝ่ายจำเลยต้องชำระหนี้ตามคำพิพากษาฎีกา ทั้งสิ้น 42,637,810.40 บาท

โดยวันนี้ นายกรรชัยและนายเดชา ทนายความ ผู้รับมอบอำนาจจากครอบครัว นางสาว พ. ได้นำแคชเชียร์เช็ค จำนวน 41,755,050.79 บาท พร้อมเงินค่าธรรมเนียมศาล 20,000 บาท มาวางต่อศาลแพ่งเพื่อชดใช้ค่าเสียหายให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ โดยมี นายโอภาส อนันตสมบูรณ์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง รับแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไว้

ยืมเงินญาติ41ล้านชดใช้เหยื่อ9ศพ อธิบดีฯศาลแพ่งรออีก8แสน-ครบจ่ายทันที

ภายหลัง นายกรรชัย ผู้รับมอบอำนาจมาศาล เปิดเผยว่า เพื่อให้เรื่องนี้ได้จบสิ้น เนื่องจากคดีมีความยืดเยื้อมานานมาก สมควรแก่การเวลาที่ญาติฝั่งผู้เสียหาย ทั้งผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บได้รับการเยียวยา ก่อนหน้านี้ตนเองได้รับโฉนดมาจากครอบครัวของแพรวาเพื่อเป็นตัวกลางในการจำหน่ายแต่ก็ติดขัดเรื่อยมา กระทั่งครอบครัวแพรวาตัดสินใจยืมเงินจากญาติพี่-น้อง จนได้ตามจำนวนกว่า 41 ล้านบาท ที่นำมากับศาลในวันนี้ แต่ยังขาดเงินอีกว่า 800,000 บาท เนื่องจากเข้าใจตัวเลขคาดเคลื่อน ซึ่งภายใน 2-3 วันนี้จะนำเงินมาวางเพิ่มเติมให้ครบ ยืนวันทุกอย่างจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในวันที่ 28 ส.ค.นี้

ส่วนสาเหตุที่ก่อนหน้านี้ครอบครัวแพรวาไม่ใช้วิธีการกู้ยืมเงินเพื่อเยียวค่าเสียหาย เนื่องจากเป็นเรื่องของกระบวนการทางกฎหมายที่อยู่ในช่วงต่อสู้ทางคดีทำให้ตัวเลขของเงินเยียวยาของแต่ละศาลไม่เท่ากัน และที่ทางครอบครัวแพรวาไม่เดินทางมาด้วยเนื่องจากไม่สะดวกและมองว่าที่ผ่านมาได้เคยมีการขอโทษผู้เสียหายมาตลอดอยู่แล้ว

ยืมเงินญาติ41ล้านชดใช้เหยื่อ9ศพ อธิบดีฯศาลแพ่งรออีก8แสน-ครบจ่ายทันที

ด้านนายเดชา ทนายความ ระบุว่า หลังจากวางเงินต่อศาลแพ่งในวันนี้ ขั้นตอนต่อไปอีก 2-3 วันจะนำเงินที่เหลืออีก 800,000 บาท มาวางเพิ่มเติม จากนั้นก็ถือว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นตามขบวนการได้ชดใช้ค่าเสียหายเรียบร้อยในฝ่ายจำเลย

ขณะที่ นายโอภาส อนันตสมบูรณ์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา ทางครอบครัวแพรวาได้ติดต่อมาให้ทางศาลได้คิดค่าเสียหาย เงินต้นและดอกเบี้ยจนถึงวันนี้ รวมถึงค่าธรรมเนียมศาล เพื่อที่จะนำเงินมาวางศาล จำนวนเงินที่ต้องเยียวยาให้ผู้เสียหายทั้งหมด 26 ราย มีจำนวน 42,637,810.40 บาท และอีก 20,000 บาท ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมศาล ซึ่งยังเหลือเงินอีก 800,000 บาท ที่ทางครอบครัวของแพรวาจะต้องนำมาชำระเพิ่มเติมนั้น ก็จะต้องนับดอกเบี้ยด้วยเช่นกัน โดยดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 จะนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะจ่ายครบ ภายในวันที่ 28 ส.ค.

ยืมเงินญาติ41ล้านชดใช้เหยื่อ9ศพ อธิบดีฯศาลแพ่งรออีก8แสน-ครบจ่ายทันที

ส่วนขั้นตอนการจ่ายเงินคืนผู้เสียหายแต่ละรายศาลมีบัญชีไว้อยู่แล้วว่าจะต้องจ่ายให้ผู้เสียหายรายละเท่าใด โดยหากเงิน 800,000 บาทที่เหลือมาครบแล้วก็จะนำจ่ายผู้เสียหายได้ทันที ขั้นตอนหลังจากนั้น ก็ประสานผู้เสียหายทั้งหมดให้มารับเงินพร้อมกัน โดยทางศาลจะจัดห้องประชุมที่จะมอบเงินให้

ยืมเงินญาติ41ล้านชดใช้เหยื่อ9ศพ อธิบดีฯศาลแพ่งรออีก8แสน-ครบจ่ายทันที

ทั้งนี้ขอขอบคุณฝ่ายจำเลยที่ทำให้เรื่องนี้จบลงเสียทีและยืนยันว่าศาลให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายและขอให้สังคมเข้าใจ เพราะเป็นเรื่องที่น่าเสียใจและเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้น แต่ขอให้สังคมมองว่าศาลเองก็ต้องให้ความเห็นใจทั้งฝ่ายผู้เสียหาย ซึ่งน่าเห็นใจมาก เพราะว่ามีการสูญเสียไปเยอะ และฝ่ายจำเลยเองขณะกระทำความผิดก็อายุเพียง 16 ปี เป็นเยาวชน ก็ขอให้สังคมมองทั้งสองด้าน ทำอย่างไรที่จะเยียวยาให้ผู้ทั้งสองฝ่ายผ่านเหตุการณ์ไปได้ด้วยดี เพราะว่าเหตุการณ์ดังกล่าวคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วเชื่อว่าตัวจำเลยเองไม่มีความสุขตลอด 9 ปี ถูกสังคมจะลงโทษทางด้านจิตใจ และตัวจำเลยเองก็ได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจไปโดยปริยายแล้ว