สนามบินเบตง เตรียมเปิดให้บริการปี 2563 กระตุ้นเศรษฐกิจ

สนามบินเบตง เตรียมเปิดให้บริการปี 2563 กระตุ้นเศรษฐกิจ

“สำนักโฆษกฯ” นำคณะเยือน “ใต้สุดสยาม” ดูความคืบหน้าสร้าง “สนามบินเบตง” เสร็จเกือบ 100% เปิดใช้ปีหน้า ก่อน “ประยุทธ์” ลง “ยะลา” 7 ก.ค.นี้

เมื่อวันที่ 6 ส.ค.62 สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ ระหว่างวันที่ 5 – 7 ส.ค. 2562 จังหวัดสงขลา ปัตตานี และยะลา ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะลงพื้นที่ในวันที่ 7 ส.ค เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการสำคัญของรัฐบาล ในการขับเคลื่อนและพัฒนาพื้นที่ด้านเศรษฐกิจตามโครงการเมืองต้นแบบ สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน โดยจุดแรกเยี่ยมชมสํานักงานท่าอากาศยานเบตง และพื้นที่ก่อสร้างฯ

โดยท่าอากาศยานเบตงเริ่มดำเนินการก่อสร้าง เมื่อปี 2560 ตามมติครม.เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2558 ที่เห็นชอบหลักการในโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตง เพื่อแก้ไขปัญหาด้านคมนาคม เนื่องจากเส้นทางทางบกมายังอำเภอเบตง มีสภาพภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสูงชัน ไม่สะดวกต่อการเดินทาง ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายพัฒนา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงส่งเสริมให้มีการเดินทางทางอากาศในพื้นที่ ปัจจุบันการดำเนินการก่อสร้างตัวอาคารรันเวย์แล้วเสร็จร้อยละ 94 ซึ่งจะสามารถส่งมอบพื้นที่ ได้ในเดือนพฤศจิกายน 2562 แต่ทางผู้รับเหมาจะพยายามส่งมอบให้ได้ภายในเดือนตุลาคม 2562

สำหรับรันเวย์มีระยะทาง 1,800 เมตร ลานจอดเครื่องบิน 3 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ บนเนื้อที่ 920 ไร่ สามารถรองรับเครื่องบินขนาด 70-80 ที่นั่ง เบื้องต้นสายการบินภายในประเทศที่มีความพร้อม คือนกแอร์และบางกอกแอร์เวย์ โดยสนามบินแห่งนี้ รองรับผู้โดยสารต่อวันกว่า 1,000 คน หรือประมาณ 300 คนต่อ 1 ชั่วโมง และมีแผนต่อขยายในอนาคตอีก 300 เมตร สามารถรับเครื่องบินโบอิ้งได้
ในการออกแบบท่าอากาศยานฯ ใช้ไม้ไผ่ตงซึ่งสัญลักษณ์ของเบตงและคำว่าเบตงในภาษามลายู ยังแปลว่าไม้ไผ่ นำมาเป็นส่วนสำคัญในการตกแต่ง ส่วนอาคารวิทยุการบินนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมกันในปี 62 และจะเปิดใช้บริการได้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจเมืองชายแดน โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ที่มีธรรมชาติงดงาม อาทิ จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวงที่ขึ้นชื่อ รวมถึงอาหารพื้นเมือง และผลไม้ต่างๆ

จากนั้นไปยังหมู่บ้านไก่เบตง เยี่ยมชมฟาร์มไก่เบตงคีรีเบย์ ซึ่งเป็นฟาร์มต้นแบบ มีอัตลักษณ์ 5 เหลืองคือ ปาก หนัง ขน แข้ง และเนื้อ โดยความพิเศษของไก่เบตง จะมีเนื้อ หนัง นุ่ม ลักษณะการเลี้ยงบนภูเขา ปล่อยให้ไก่ออกมาเดินตามธรรมชาติป้องกันโรคติดต่อ ทั้งนี้ ฟาร์มเลี้ยงไก่เบตงคีรีเบย์ถือเป็นฟาร์มรายใหญ่ของเบตง จะรับซื้อจากเกษตรกรที่เป็นสมาชิก และสำหรับราคาขาย ไก่โตเต็มวัยจะอยู่ที่น้ำหนัก 2 กิโลกรัมครึ่ง ราคากิโลกรัมละ 200 บาท หรือตกตัวละประมาณ 500 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกำหนดการการลงพื้นที่จ.ยะลา ในวันที่ 7 ส.ค. ของพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาพื้นที่จ.ยะลา พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะและแนวทางการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยนายกรัฐมนตรี จะเดินทางถึงอาคารศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมือง จ.ยะลา ในเวลา 09.45 น. ทั้งนี้ เมื่อนายกฯ เดินทางมาถึงจะประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีพล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นผู้บรรยายสรุปภาพรวมการพัฒนาพื้นที่จ.ยะลา ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ที่จะรายงานปัญหาและอุปสรรค พร้อมข้อเสนอแนะการแก้ไขปัญหา ซึ่งในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรีจะมอบนโยบายและสั่งการต่อที่ประชุมเพื่อประสานแนวทางการปฏิบัติต่อไป

อย่างไรก็ตาม ภายหลังประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นายกฯ จะเป็นประธานเปิดและเยี่ยมชมศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเป็นทางการ พร้อมมอบเงินอุดหนุนช่วยเหลือและหนังสือเอกสารสำคัญแก่ผู้แทนประชาชน โดยจะมอบเงินค่าตอบแทนการทำงานของผู้นำศาสนาในพื้นที่ 5 จังหวัด ให้กับประธานกรรมการอิสลาม เงินช่วยเหลือเยียวยาให้กับผู้แทนของกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวน 5 ราย มอบบัตรส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอ จำนวน 1 บริษัท และหนังสือขอบคุณภาคเอกชนที่มีการลงทุนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งมอบหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินให้กับผู้นำศาสนาและผู้แทนประชาชนของจ.ยะลาและจ.ปัตตานี รวมทั้งจะพบปะประชาชนในพื้นที่

ภายหลัง เสร็จสิ้นภารกิจเวลา 13.30 น. นายกฯ จะสักการะศาลหลักเมืองจ.ยะลา จากนั้นนายกฯ จะตรวจเยี่ยม โครงการทุเรียนคุณภาพที่บริเวณตลาดกลางยางพารายะลา ต.สะเตง ก่อนจะเดินทางกลับ