ภาพพาเที่ยว 'SNEAK' วางแผนง่ายไม่เปลืองเวลา 

ภาพพาเที่ยว 'SNEAK' วางแผนง่ายไม่เปลืองเวลา 

เดี๋ยวนี้ใคร ๆก็ออกเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง จองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ลากกระเป๋าเอง เพราะมีอิสระอยากจะดื่มด่ำนั่งชมวิวตรงไหนนาน ๆก็ทำได้

แต่ร้อยทั้งร้อยก่อนที่จะไปเที่ยวได้ในแต่ละครั้ง ต้องมีการ “วางแผน” ต้องค้นหาข้อมูลต่าง ๆทางอินเทอร์เน็ต ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว การเดินทาง ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ฯลฯ เรียกว่าแค่คิดจะไปเที่ยวเพียงสัปดาห์เดียวแต่กลับต้องใช้เวลาวางแผนกันเป็นแรมเดือน

“ธันยธร เพ็ญบำรุงวงศ์” (ฟ้า) ผู้ร่วมก่อตั้ง&ซีอีโอ และ “สมเพชร คติสมสกุล” (แพ็ค)ผู้ร่วมก่อตั้ง& ซีโอโอ “SNEAK” (สนีค) บอกว่าจากนี้ไปพวกเขาจะทำให้การวางแผนท่องเที่ยวไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากอีกต่อไปแถมยังสนุกอีกด้วย

เพียงแค่กดเลือกรูปภาพของสถานที่ที่ต้องการจะไปเที่ยว ระบบของสนีคก็จะช่วยสรุปทุกอย่างออกมาให้เพียงแค่อึดใจ

"ฟ้าเคยเดินทางไปท่องเที่ยวครั้งแรกกับที่บ้านเมื่อประมาณ 4-5ปีที่แล้ว ตอนนั้นตัดสินใจว่าจะไปญี่ปุ่นไม่ไปกับทัวร์ และต้องใช้เวลาวางแผนนานถึง 3-4 เดือนในการพยายามหาข้อมูลในเว็บไซต์หรือหาแอพที่จะมาช่วยทำให้มันง่ายขึ้น ก็ค้นพบว่าเราต้องใช้เวลาเยอะมากกับการวางแผนท่องเที่ยวในแต่ละครั้ง ซึ่งผ่านมาหลายปีแล้วถึงตอนนี้ก็ยังไม่เคยเจออะไรที่มาช่วยทำให้ง่ายขึ้นเลย"

พวกเขาจึงพัฒนาสนีคเพื่อช่วยทำให้การวางแผนท่องเที่ยวง่ายที่สุด ที่แม้กระทั่งกลุ่มผู้สูงวัยไม่เก่งเทคโนโลยีก็ยังทำได้ โดยการใช้ “ภาพ”

ตัวอย่างเช่นถ้านักท่องเที่ยวต้องการจะไปเที่ยวกรุงเทพ ก็ให้กดเลือกภาพสถานที่ในฝันที่อยากจะไป ซึ่งสามารถเลือกได้ทีละหลาย ๆภาพ ให้ระบบช่วยสรุปออกมาว่าการเดินทางในแต่ละสถานที่มันเชื่อมกันอย่างไร มีระยะทางห่างกันแค่ไหน มีสถานที่ใดที่ต้องจองตั๋วเข้าชม ฯลฯ ทำให้นักท่องเที่ยวเห็นภาพรวมของทริปได้ทันที ทั้งคำนวนได้ว่าต้องใช้เวลาแต่ละสถานที่ประมาณเท่าไหร่

"ในการวางแผนท่องเที่ยวส่วนใหญ่เราต้องอ่านเท็กซ์กันเยอะ แต่แค่อ่านเท็กซ์อาจยังไม่เกิดความต้องการหรือนำไปสู่การตัดสินใจ ต้องเป็นรูป อาจเป็นเพราะส่วนหนึ่งมาจากที่ตัวฟ้าเองชอบเล่นไอจี ชอบดูเฟสบุ๊คเลยได้เห็นเพื่อน ๆ หรืออินฟลูเอนเซอร์ที่เขาเดินทางไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ที่แม้ว่าเราอยากจะไปบ้างแต่ที่ทำได้ก็คือการกดไลค์หรือกดแชร์"

ไอเดียสนีคเกิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ในเวลานั้นพวกเขาทั้งสองคนยังทำงานให้กับบริษัทที่เป็นสตาร์ทอัพในประเทศสหรัฐอเมริกา แพ็คบอกว่าตอนนั้นตัวเขาก็เริ่มเทสต์ไอเดียว่ามันเวิร์คหรือไม่เวิร์ค โดยการพาตัวเองไปนั่งตามร้านสตาร์บัคส์ในเมืองบอสตัน เพื่อไปพูดคุยกับชาวอเมริกันรวมถึงคนต่างชาติที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวและขอให้พวกเขาเล่าให้ฟังว่าวางแผนการท่องเที่ยวกันอย่างไร ก็เริ่มต้นเก็บทำมาร์เก็ตรีเสิร์ซกันจากตรงนั้นและได้พบว่าคนอเมริกาส่วนใหญ่ใช้พินเทอเรสต์วางแผนทริปท่องเที่ยว ด้วยเหตุผลว่ามันเป็นรูปก็เลยย่อยง่าย ซึ่งช่วยพรูฟว่าไอเดียที่คิดไว้มีความเป็นไปได้ 

"เราใช้เวลา 3-4 เดือนไปสอบถามฝรั่งเพื่อให้รู้ว่ามีตลาดอยู่จริงไหม มีดีมานด์อยู่จริงไหม และทำโปรโตไทป์เป็นกระดาษให้พวเขาเทสต์เลย เพราะพวกเราไม่ใช่โปรแกรมเมอร์เลยต้องทำอะไรที่จะสามารถทำได้และทำได้เร็วที่สุด จากนั้นเราก็ตัดสินใจกลับไทยเพื่อมาทำแบบฟูลไทม์ เพราะเห็นว่าถ้าเราไม่ทำตอนนี้ก็ไม่รู้จะทำตอนไหนแล้ว"

สำหรับกลุ่มผู้ใช้เป้าหมายของสนีคจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศฝั่งตะวันตก ซึ่งเมื่อพวกเขาทั้งสองกลับมาถึงเมืองไทยก็ได้ทำมาร์เก็ตรีเสิร์ซอีกรอบ ด้วยการเข้าไปสอบถามโฮสเทล รวมถึงไปสนามบินดักรอฝรั่งเพื่อขอสัมภาษณ์ว่าพวกเขาจะท่องเที่ยวอย่างไร จะไปไหน วางแผนอย่างไร เขาชอบไม่ชอบอะไร

“สนีคค่อนข้างให้ความสำคัญกับยูสเซอร์ฟีดแบ็ค ยูสเซอร์เซ็นทริค และมาร์เก็ตรีเสิร์ซ เราฟังว่าเขาต้องการอะไร และจะแอดเข้าไปในโปรดักส์ เราพยายามจะพัฒนาโปรดักส์ไปเรื่อยๆ”

เมื่อถามถึงไมล์สะโตน พวกเขาบอกว่าเวลานี้สนีคยังเป็นเว็บแอพพลิเคชั่นอยู่ แต่ในช่วงไตรมาสที่สี่หรือปลายปีนี้จะพัฒนาแอพออกมาให้ยูสเซอร์ได้ดาวน์โหลดเพื่อการใช้งานที่ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น ขณะที่ในส่วนของคอนเทนท์นัั้น ปัจจุบันยังคงมีสถานที่แค่ในกรุงเทพและจังหวัดเชียงใหม่เท่านั้น แต่กำลังขยายเพื่อให้ครอบคลุมเมืองหลักๆที่นักท่องเที่ยวฝรั่งชื่นชอบ เช่น ภูเก็ต กระบี่ พัทยา อยุธยา จากนั้นก็จะไปต่อในกลุ่มประเทศเซาท์อีสต์เอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ญี่ปุ่น" ซึ่งเป็นประเทศเจ้าภาพงานโอลิมปิคในปี 2020 ที่กำลังจะมาถึง

"นักท่องเที่ยวที่เป็นแบ็คแพ็คเกอร์ส่วนใหญ่เขาจะตะลุยไปในหลาย ๆประเทศ ล่าสุดสนีคไปออกงานที่สิงคโปร์มา เราก็โดนถามเยอะเลยว่า ยูจะมีสิงคโปร์ ที่นั่น ที่นี่ด้วยไหม หรือมีบางคนที่แอดไอจีและเฟสบุ๊คกันไว้เขาก็ทักมาว่า ไอจะไปญี่ปุ่นปลายปีนี้ยูทำทันไหม หรือตอนนี้ไออยู่อิตาลีและต้องการสนีคมากเลย ทำไมยูไม่ทำที่อิตาลี"

ในอนาคตอันใกล้ สนีคก็จะเป็น “คลาวด์ซอร์สซิ่ง” ให้ทุกคนสามารถอัพโหลดภาพถ่ายหรือคอนเทนท์ที่ได้ไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆของตัวเองได้ เมื่อคนอื่นๆเห็นและสนใจก็สามารถกดเลือกเพื่อวางแผนไปท่องเที่ยวตามรอยได้แบบไม่ต้องเสียเวลาค้นข้อมูล ทุกคนจะได้คอนเน็คกันเกิดเป็นสังคมแชร์ริ่ง แชร์รูป สามารถช่วยเหลือคนอื่น ๆโดยง่าย

"แต่เดิมอินฟลูเอนเซอร์เขาสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆได้เท่านั้น แต่ถ้าเราพัฒนาฟีเจอร์ขึ้นมาจะทำให้เขาไม่แค่สร้างแรงบันดาลใจแต่ยังช่วยคนอื่นวางแผนการท่องเที่ยวได้เลยเขาสามารถช่วยคนที่ติดตามในไอจีให้ Get Things Done ได้  "

โมเดลธุรกิจของสนีคหลักๆจะว่าด้วย “ค่าคอมมิชชั่น” จากการบุ๊คกิ้งต่างๆ (แต่สำหรับนักท่องเที่ยวในการใช้งาน การแชร์ภาพหรือข้อมูลต่างๆ ทุกอย่างฟรี)  ฝันใหญ่ของสนีค  ก็คือการเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยทุกคนวางแผนท่องเที่ยวได้ง่ายที่สุด เป็นโกลบอลทราเวลแอพพลิเคชั่นที่จะทำให้ทุกคนสามารถแบ่งปันประสบการณ์ดี ๆให้กับคนอื่น ๆ คือจะไม่เพียงแค่เห็นและรู้สึกว่าอยากจะไป แต่เมื่อคลิกรูปแล้วเขาจะได้ไปสถานที่นั้นๆได้จริง

สนีคเป็นอีกหนึ่งทีมที่ได้เข้าโครงการดีแทค แอคเซอเลอเรทปีที่ 7 ซึ่งผู้ก่อตั้งทั้งฟ้าและแพ็คต่างก็คุ้นเคยกับโครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพมาตั้งแต่สมัยทำงานให้สตาร์ทอัพที่สหรัฐอเมริกาซึ่งก็ได้เข้าโครงการ MassChallenge มาแล้ว นอกจากนี้พวกเขาก็เคยนำสนีคเข้าร่วมในโปรแกรมออนไลน์ของโครงการ Y Combinator มาแล้วเช่นกัน 

"เราก็รู้สึกว่าโครงการบ่มเพาะช่วยเรามาก พอกลับไทยเราก็อยากคอนเน็คกับโลคัลให้มากขึ้น อยากรู้จักอินดัสตรี้มากขึ้น หลายคนแนะนำมาว่าให้สมัครโครงการดีแทคฯ และพอได้เข้ามาก็รู้สึกว่าเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ เราได้รู้จักกับสตาร์ทอัพรุ่นพี่ซึ่งเขาก็เล่าให้ฟังทั้งความผิดพลาดและยังให้คำแนะนำว่าอย่าทำแบบนี้ทำแล้วจะไม่เวิร์ค ซึ่งถือว่ามีประโยชน์กับทีมของเราทุกคน"