ยังคงมุมมองต่อจากสัปดาห์ก่อนที่คาดตลาดมีโอกาสทดสอบ 1680-1690 จุด

ยังคงมุมมองต่อจากสัปดาห์ก่อนที่คาดตลาดมีโอกาสทดสอบ 1680-1690 จุด

สหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน

ที่อัตรา 10% บนสินค้านำเข้ามูลค่า 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ มีผลตั้งแต่ 1 ก.ย. หลังจากไม่บรรลุข้อตกลงในการเจรจาการค้ารอบล่าสุด โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงจะมีการหารือกันในช่วงต้นก.ย. หลังการส่งข้อความทางทวิตเตอร์ของประธานาธิปดีทรัมป์ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พลิกจากบวกราว 300 จุด กลับมาปิดลบ 285 จุด และส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ West Texas ปรับลดลง 7.9%

ติดตามการปรับน้ำหนัก MSCI ในวันที่ 9 ส.ค. ในรอบนี้ประเทศไทยจะไม่ได้รับปัจจัยบวกจากการนำ NVDR เข้ามาคำนวณน้ำหนัก เช่นที่เกิดขึ้นครั้งเดียวในช่วง พ.ค. ส่งผลให้มีความเสี่ยงที่น้ำหนักการลงทุนโดยเปรียบเทียบอาจจะปรับลดลง จากผลของการทยอยเพิ่มน้ำหนักหุ้นจีน (A Shares) ขึ้นจนกระทั่ง พ.ย. ดังนั้นประเมินทิศทางเงินลงทุน (Fund flow) มีโอกาสเป็นลบทั้งจากภาวะระวังความเสี่ยง รวมถึงการปรับน้ำหนักที่อาจเกิดขึ้น

ระวังหุ้นที่ปรับขึ้นมากตั้งแต่ต้นปี หลังจากหุ้น ORI และ PTG ปรับตัวลดลงแรง หลังปรับตัวขึ้นโดดเด่นในช่วงก่อนหน้า เราขอให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังในกลุ่มหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงนับจากต้นปี ในกลุ่ม SET50 & SET100 โดยเฉพาะที่มีสถานะคงค้างใน Single Stock Futures สูง หุ้นที่ปรับขึ้นมากนับจากต้นปีในกลุ่มดังกล่าว ได้แก่ CBG (154%), PTG (130%), PRM (68%), COM7 (63%), KTC (56%), GULF (50%), GFPT (49%), PLANB (45%), MAJOR (45%), AEONTS (41%) เรามอง CBG น่าสนใจขายช็อต หรือพิจารณาเปิดสถานะทางลง จาก Valuation ที่เริ่มตึงตัว

เลือกช็อตหุ้นแพง ทางซื้อเลือกหุ้นรายตัวและอาจตั้งรับกลุ่มธนาคารที่ใกล้ปันผลระหว่างกาล การเก็งกำไรเน้นเลือกหุ้นตามปัจจัยรายตัว ขณะที่อาจเลือกตั้งรับหุ้นในกลุ่มธนาคารจากประเด็น 1) ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปในไตรมาส 2/62 และ 2) การประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลช่วงส.ค. คาดเป็นปัจจัยให้หุ้นมีโอกาสเกิดการฟื้นตัวระยะสั้นได้ หุ้นที่เราชอบ ได้แก่ WHAUP, GUNKUL*, EASTW*, BJC*, CPF, TU, GFPT, CPN, NNCL*, MFEC* เป็นต้น / เก็งกำไร หุ้นเล็ก AQUA*, EPCO*, VL* / กลุ่มธนาคาร SCB, BBL, KBANK โดยควรกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง / หุ้นพิจารณาช็อตทางกลยุทธ์ BEM*, CBG*

ภาพรวมกลยุทธ์: ตลาดหลุด 1714 จุด ทำให้เกิดแรงกดดัน SET Index ลงทดสอบ 1705 และน่าจะ 1680-1690 จุด ตามลำดับ นักลงทุนควรเพิ่มความระวังต่อความผันผวนในระยะสั้น  // หุ้นแนะนำวันนี้ WHAUP* เก็งกำไร AQUA* (เป้า 0.70 ตัดขาดทุน 0.50), Short CBG* (เป้า 70 ตัดขาดทุน 81) , Short BEM* (เป้า 9.80 ตัดขาดทุน 11.00)

แนวรับ 1690 และ 1683 / แนวต้าน : 1702 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

US PMI ต่ำคาด หนุนเฟดลดดอกเบี้ย –ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯออกมาอยู่ที่ 51.2 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดที่ 52 ส่งผลให้นักลงทุนกังวลต่อภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและปรับเพิ่มคาดการณ์เฟดหั่นอัตราดอกเบี้ยลง

BOE ลดคาดการณ์ GDP – แบงก์ชาติอังกฤษ (BOE) คงดอกเบี้ยตามคาด พร้อมปรับลดตัวเลขคาดการณ์ GDP อังกฤษในปี 62 และ 63 ลงสู่ระดับ 1.3% จากคาดการณ์เดิมที่ 1.5% และ 1.6% ตามลำดับ สะท้อนความเสี่ยงทางการค้าและ Brexit

เงินเฟ้อไทยเดือน ก.ค. เพิ่ม 0.98% YoY – สนค.รายงานตัวเลขเงินเฟ้อ เดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 0.98% YoY รับปัจจัยหนุนหลักมาจากราคากลุ่มสินค้าอาหารสดที่ปรับแพงขึ้น

ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจทรงตัว – ธปท.รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือน ก.ค.อยู่ที่ 49.1 ทรงตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้า จากความเชื่อมั่นภาคการผลิตที่ลดลง ขณะที่ภาคกรบริการเพิ่มขึ้น

ประเด็นติดตาม: 7 ส.ค. – ประชุม กนง., 8 ส.ค. – ดุลการค้าจีน, 9 ส.ค. – GDP ไตรมาส 2/62 ของอังกฤษ

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)