สงครามการค้ายืดเยื้อ

สงครามการค้ายืดเยื้อ

ดัชนีวานนี้ปิดปรับตัวลงแรง เช่นเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค หลังจากผิดหวังที่ประธานเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งถัดไป

แม้ว่าในการประชุมครั้งนี้ เฟดได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ก็ตาม ประกอบกับค่าเงินบาทเริ่มปรับตัวอ่อนค่าลง จึงคาดว่า Fund Flow เริ่มไหลออก นอกจากนี้ ดัชนีถูกแรงเทขายทำกำไรในกลุ่ม Big Cap. นำโดย TRUE BDMS EGCO และ PTG ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,699.75 จุด (-12.22 จุด) Volume 5.5 หมื่นลบ. ต่างชาติ -1,716.98 ลบ. TFEX Net -11,617 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ +4,198 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ก.พาณิชย์รายงานดัชนี CPI หรืออัตราเงินเฟ้อในเดือนก.ค. +0.98% ต่ำกว่าคาดที่ 1% 7M62 ดัชนี CPI +0.92% ยังอยู่ในกรอบ 0.7 – 1.3%

+FedWatch บ่งชี้ว่า นลท.คาดการณ์ว่ามีโอกาส 61.2% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดบ. 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. จากเดิม 51%

+ก.พาณิชย์รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป(ดัชนีชี้วัดเงินเฟ้อ)เดือนก.ค. +0.98% 7M62 +0.92% ยังอยู่ในกรอบประมาณการที่ 0.7-1.3%

+ Fund Flow ต่างชาติมีสถานะซื้อ YTD 5.9 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 30.825 บาท/US

+/- แบงก์ชาติอังกฤษมีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยเมื่อคืนนี้

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 280.85 จุด -1.05%  กังวลสงครามการค้าสหรัฐ-จีนยืดเยื้อหลังปธน.ทรัมป์ขู่เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 3 แสนล้านดอลลาร์ มีผล 1 ก.ย.

-ราคาน้ำมันดิบ WTI -4.63 ดอลลาร์ -7.9% ปิด 53.95 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง  EIAระบุว่าการผลิตน้ำมันของสหรัฐเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมาและแรงกดดันจากทรัมป์ขู่เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้น

-สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 215,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าคาดที่ระดับ 214,000 ราย

-สหรัฐเผยการใช้จ่ายภาคการก่อสร้างร่วงหนักสุดรอบ 7 เดือนในมิ.ย.สวนทางคาดการณ์

-ดัชนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐเดือนก.ค.ลดลงสู่ระดับ 50.4 ต่ำสุดรอบเกือบ 10 ปี

*จับตาสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค. ดุลการค้าเดือนมิ.ย. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานมิ.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงตามทิศทางตลาดโลก โดยมีแรงกดดันจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% คิดเป็นมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ โดยจะบังคับใช้วันที่ 1 ก.ย.นี้ ประกอบกับตลาดน่าจะถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดิบ WTIปรับตัวลงแรงกว่า -7.9% คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,680-1,695 จุด

หุ้นรายงานพิเศษ

TMILL (ราคาปิด 3.02 “ถือรับปันผล” ราคาเหมาะสม 3.36)

  • TMILL เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายแป้งสาลีเพื่อการบริโภคในประเทศด้วยกำลังการผลิต 500 ตันข้าวสาลีต่อวัน(ใหญ่เป็นอันดับ 3 จากทั้งหมด 12 บริษัท) โดยสามารถแบ่งสินค้าได้ 5 ประเภทดังนี้ แป้งขนมปัง แป้งอเนกประสงค์ แป้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แป้งบะหมี่สด และแป้งบิสกิต คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 27% 22% 21% 16% และ 14% ตามลำดับ โดยวัตถุดิบหลักในการผลิตแป้งสาลีบริษัทนำเข้าจากจากสหรัฐและออสเตรเลียส่งผลให้ต้นทุนของบริษัทขึ้นกับราคาข้าวสาลีโลกและค่าเงินบาท
  • คาดกำไรปี 62 อยู่ที่ราว 96 ลบ. -10%YoY เนื่องจากการแข่งขันสูงกดดันจากอัตรากำไรขั้นต้นให้ปรับตัวลงจากปี 61 ที่ 19% เหลือ 16% ในปี 62 จากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นหลังมีโรงงานแป้งสาลีเปิดใหม่ 2 แห่งระหว่างปี 60-61 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเราคาดว่า 2H62 จะได้ผลดีจากต้นทุนนำเข้าลดลงตามค่าเงินบาทที่แข็งค่า (สั่งสินค้าล่วงหน้าล่วงหน้า 3 เดือนถึงจะเริ่มได้รับประโยชน์จากเงินบาทที่แข็งค่า) โดย 1Q62 บริษัทรายงานกำไร 24.7 ล้านบาทหรือคิดเป็น 26% ของประมาณการ ขณะที่ 2Q62 เราคาดว่ากำไรจะอ่อนตัวลงสู่ 23 ล้านบาท -8%QoQ และ –15%YoY เนื่องจากเป็น low season อีกทั้งกำไรถูกกดดันจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น
  • เริ่มต้นคำแนะนำ “ถือรับปันผล” ที่ราคาเหมาะสม 3.36 บาท: ฝ่ายวิจัยประเมินมูลค่าเหมาะสมด้วยวิธี PE Ratio โดยอิง Prospective P/E ที่ระดับ 14 เท่า (ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี) ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 62 ราว 0.24 บาทต่อหุ้นได้ราคาเหมาะสมที่ 3.36 บาท แม้จะสูงกว่าราคาในปัจจุบัน แต่เราคาดว่าผลประกอบการมีแนวโน้มชะลอตัวจากปีก่อนจึงแนะนำ “ถือรับปันผล” โดยคาดหวังเงินปันผลที่ 4.5% ต่อปี

กลยุทธ์การลงทุน

เน้นลงทุนในหุ้น Theme EEC play (AMATA WHA ROJNA EASTW ATP30),หุ้น Mid-Small Cap. ที่คาดผลประกอบการ 2Q19 เติบโตดี (VL AMA TACC JUBILE SABINA NER), หุ้น Defensive Stock (EASTW TTW BCH CPALL BJC)

หุ้นมีข่าว   

·      CHOW คว้างาน Solar Rooftop ในประเทศเพิ่มอีก 1 โครงการ 114.73 กิโลวัตต์ ของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง มูลค่ารวม 5.12 ล้านบาท มีกำหนดส่งมอบงานต้นเดือน ก.ย. 62 ย้ำบุ๊กรายได้ทันทีในไตรมาส 3/62 (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      ANAN (ราคาปิด 3.56 บาท Bloomberg Consensus 4.63 บาท)  แจ้งปรับรูปแบบและพัฒนาสินค้าใหม่สำหรับโครงการ “ไอดีโอ คิว พหล-สะพานควาย” นำเทคโนโลยี BIM มาใช้ในการก่อสร้าง พร้อมเปิด Soft Opening โครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ใหม่ปลายปีนี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      ALLA คงเป้ารายได้ปีนี้ 700 กว่าล้านบาท โต 10% จากปีก่อน ตุนแบ็กล็อกกว่า 500 ล้านบาท จ่อบุ๊กปีนี้ 70-80% ขณะที่ครึ่งปีหลังรอลุ้นผลประมูลงานใหม่ “กลุ่ม PTT-GULF-โรงไฟฟ้าบังกลาเทศ” มูลค่าอีกกว่า 500 ล้านบาท ส่วนงบ Q2 จ่อแจ้งวันที่ 7 ส.ค.นี้ คาดทรงตัวใกล้เคียงช่วงเดียวกันของปีก่อน เหตุบุ๊กสำรองค่าใช้จ่ายพนักงาน 6-7 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      ILINK (ราคาปิด 5.15 บาท Bloomberg Consensus 5.90 บาท) เผยว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2562 บริษัทได้ร่วมลงนามในสัญญางานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบเคเบิลใยแก้วนำแสง และอุปกรณ์ประกอบระบบ ประจำปีงบประมาณปี 2562 จำนวน 1 งาน กับกรมการสื่อสารทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย โดยมีมูลค่า 98,331,000 บาท ซึ่งรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีอื่น ค่าขนส่ง ค่าจดทะเบียน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทั้งหมดแล้ว ทั้งนี้ มีระยะเวลาการส่งมอบงาน 300 วัน นับจากวันลงนามในสัญญาซื้อขาย (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      VGI (ราคาปิด 9.30 บาท Bloomberg Consensus 9.33 บาท) เตรียมจับมือพันธมิตรดำเนินธุรกิจคอมเพล็กซ์ความงามครบวงจรบน BTS ครั้งแรก ช่วงเดือนสิงหาคมนี้ แย้มได้สองเด้งทั้งค่าเช่าพื้นที่ และค่าโฆษณาสื่อความงามบนสถานี พร้อมเดินหน้าหาพันธมิตรแตกไลน์ธุรกิจหลากหลาย ด้านนักวิเคราะห์ชี้ธุรกิจสื่อนอกบ้านยังโดดเด่น (ที่มา ทันหุ้น)

·      PLANB (ราคาปิด 8.15 บาท Bloomberg Consensus 8.39 บาท) คาดธุรกิจโฆษณาครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่องตามฤดูกาลเดินหน้าเพิ่มจอดิจิทัลอีก 50 ป้ายให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นทั้งในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และต่างจังหวัด คาดสิ้นปีแตะ 500 ป้าย มั่นใจผลงานนิวไฮต่อเนื่อง คาดรายได้แตะ 4,500-5,000 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

·      TTCL (ราคาปิด 10.60 บาท Bloomberg Consensus 10.05 บาท)ฉายแววผลงานครึ่งหลังปี 2562 โดดเด่น ติดเครื่องประมูลงานใหม่ทั้งในและต่างประเทศรวมกว่า 5.8 หมื่นล้านบาท อวด Backlog ในมือ 1.53 หมื่นล้านบาท คาดรับรู้ปีนี้ 50% มีลุ้นปลายปีนี้คว้างานก่อสร้างโรงงานปิโตรเคมีร่วม SoJits ไม่น้อยกว่า 1 โครงการมูลค่าราว 250 ล้านดอลลาร์ (ที่มา ทันหุ้น)

·      AP (ราคาปิด 7.40 บาท Bloomberg Consensus 8.91 บาท) ครึ่งปีแรก 2562 ยอดขาย 2.08 หมื่นล้านบาท เติบโต 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อน รับดีมานด์ทะลัก ย้ำเป้าปีนี้รายได้ตามฝัน 3.59 หมื่นล้านบาท รับพอร์ตลูกค้าโตต่อเนื่อง แถมปรับแผนเปิดโครงการครึ่งหลังปีนี้เหลือ 18 โครงการ จากเดิมที่วางไว้ 23 โครงการ เหตุหาที่ดินไม่ทันจากเดิมที่มี Backlog ราว 5.73 หมื่นล้านบาท กินยาวปี 2566 (ที่มา ทันหุ้น)