กินแหนงแคลงใจ..ฤๅคลาย?

แม้เสนาบดีหลายรายยังไม่ออกแสดง นัยว่ารอแบ่งงานก่อนและตอนนี้วุ่นกับการรับกระเช้าอวยพร แต่หากยังชักช้าระวังโพลล์จะแจ้งผลว่า "ท่านคือรมต.โลกลืมนะขอรับ"

ครม.ชุดนี้ เริ่มงานแบบเป็นทางการไปแล้ว หัวหน้ารัฐบาลก็ขอให้ทุกคนสามัคคี สิ่งที่ผ่านมาก็ขอให้ผ่านไป แต่บางถ้อยคำของวรรณกรรมจีนที่ว่าไว้ว่า “สิบปีชำระแค้นไม่สายนั้น“ ความจริงข้อนี้ยังซ่อนอยู่ในใจคนการเมืองหลายชีวิต

แว่วจากอาคารแห่งหนึ่งย่านรัชดาภิเษก ที่คล้ายเป็นแหล่งชุมนุม มังกรซ่อนพยัคฆ์ ว่า ครั้นการฟอร์ม ครม.ลุงตู่2 อาการไม่ไว้วางใจของคนต่างมุ้งหรือแม้แต่คนในขั้วเดียวกันเองมันเผยมาชัดจนตอนนั้นแทบไม่มีใครพูดกับใครบนความจริงเลย เพราะไม่รู้ว่าคนที่กำลังหารือด้วยนั้น เป็นสายลับของใครและหวังเก้าอี้ด้วยหรือไม่....

แต่ละขั้วปล่อยข่าวเพื่อสกัด ดาวรุ่ง หรือโยนหินถามทางนั้น เรียกว่ามั่วกันรายวันจนสภาพพรรคเกินเยียวยาแม้วันนี้อาการจะเริ่มทรง แต่ความจริงแล้วความไม่ไว้ใจกันและกันของแกนนำแต่ละมุ้ง ยังตราไว้ในดวงจิต แรงแค้นพร้อมนำมาชำระได้ทุกเมื่อหากมีโอกาส! เพราะแม้แต่ระดับส.ส.ยังมีความกินแหนงแคลงใจกันเองเลย แล้วระดับเสนาบดีจะไม่มีหรือ...อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ!

ท่ามกลางข่าวลบ ยามนี้ข่าวบวกเริ่มนำมากลบแล้วสำหรับค่ายพปชร.ทีดึงขั้วตรงข้ามมาซบอกเพื่อเพิ่มกำลังพล “เสี่ยลาว” จากพท. คือหนึ่งในนั้นที่ย้ายมาด้วยหลากมธุรสเหตุผลและปฏิเสธว่ามาแล้วคดีจะหาย! เพราะเจ้าตัวอ้างว่าไร้มลทิน

คนวงในของอาคาร OAI Tower แจ้งว่า เสี่ยลาวย้ายไปใครสะเทือน? เพราะก่อนหน้านี้เจ้าตัวประกาศพร้อมดูแล สุรินทร์และศรีสะเกษ แต่เอาเข้าใจวาจานั้นมิได้ตรงเท่าใดนัก? และรอยแผลสมัยร่วม ครม.ปู1 ที่ทำให้เจ้าตัวเด้งจากบัลลังก์เสนาบดีนั้น...ใครๆก็รู้กันว่าเป็นเพราะอะไร ? รวมทั้งตอนนั้น นายใหญ่ ควันออกหูกับสิ่งที่เสี่ยลาวแตะมือกับใครบางคน ซึ่งนายใหญ่ระบุว่าคนๆนั้น ”ใช้เก้าอี้หากิน“ โดยแว่วว่าใครคนนั้นที่นายใหญ่กล่าวถึงมีอักษรย่อ ”ป.” และ ”ป.” นี้เองที่ชักชวนเสี่ยลาวให้ย้ายค่ายและมอบให้เสี่ยเฮ้งออกบทรับหน้าแทน