ปธ.กมธ.วิฯค่าโง่ทางด่วน อุ้ม 'ระวี' ยันไม่ได้แก้มติที่ประชุมโดยพลการ

ปธ.กมธ.วิฯค่าโง่ทางด่วน อุ้ม 'ระวี' ยันไม่ได้แก้มติที่ประชุมโดยพลการ

"วีรกร" ประธาน กมธ.วิฯ ค่าโง่ทางด่วน อุ้ม "หมอระวี" ยันไม่ได้แก้มติที่ประชุมโดยพลการ มั่นใจไม่เกิดความเสียหาย วอนอย่ามองขัดแย้ง เร่งเดินหน้าทำงานให้ทันเวลา

ขณะที่ "ยุทธพงศ์" โต้อย่าปกป้องคนทำผิด ชี้ส่งผล กมธ.เสียหาย ถูกสังคมสงสัยในความโปร่งใส ส่อผิด ม.157

เมื่อวันที่ 1 ส.ค.เวลา 10.30 น. นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.)พิจารณาการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนและรถไฟฟ้า (บีทีเอส) สภาผู้แทนนราษฎร กล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งระหว่าง นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ในฐานะรองประธานกรรมาธิการ กับนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกกรรมาธิการ ในเรื่องการแก้ไขรายงานการประชุมโดยไม่แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า เรื่องนี้ไม่มีสาระสำคัญอะไรเลย ตนไม่เข้าใจว่า การลำดับขั้นตอนก่อนหลัง ในการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลและชี้แจง จะเป็นเรื่องใหญ่โตขึ้นขั้นฟ้องร้องให้ติดคุก ติดตารางกันขนาดนั้นหรือ เพราะในการเชิญก็คือการเชิญทุกฝ่ายเข้ามาให้ข้อมูลอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นใครมาก่อนหลัง สุดท้ายก็เชิญครบอยู่ดี แต่ในบางครั้งผู้ที่กรรมาธิการเชิญไป เขาอาจจะติดภารกิจอื่น ไม่สามารถมาในวันนั้นได้ ก็เปลี่ยนเป็นวันอื่น เท่านั้นเอง

“ทาง นพ.ระวี ได้ปรึกษากับท่านอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย และนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ในฐานะรองประธาน และเจ้าของญัญติ ทุกคนก็พูดคุยกันถึงลำดับการเชิญ แล้วมาแจ้งที่ผม ผมก็เห็นด้วยไป เรื่องที่เกิดขึ้นก็มีเพียงเท่านี้ ไม่ได้ถือเป็นมติที่ประชุมที่มีใจความสำคัญอะไร เพราะสุดท้ายก็เชิญทุกคน ทุกฝ่ายอยู่ดี” นายวีระกร กล่าว

นายวีระกร กล่าวต่อว่า ทุกท่านที่เข้ามาเป็นกรรมาธิการชุดนี้ ต่างเร่งเดินหน้าทำงานให้รอบคอบและสมบูรณ์มากที่สุด ยืนยันว่า ไม่มีการขัดแย้งหรือทะเลาะกันในกรรมาธิการ กรณีของนายยุทธพงศ์ถือเป็นการติดใจส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา สำคัญเลย ตนจึงไม่อยากให้มองว่า กรรมาธิการมีปัญหากัน เพราะกรรมาธิการทุกคนไม่ได้มีปัญหา ไม่มีใครติดใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้น นายยุทธพงศ์อาจจะเป็นคนที่มีความละเอียด รอบคอบ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ฐานะที่ตนเป็นประธานกรรมาธิการชุดนี้มองว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้สร้างความเสียหายใด ๆ และนพ.ระวี ก็ไม่ได้แก้รายงานการประชุมโดยพลการอย่างแน่นอน

“ผมขอให้ทุกฝ่ายยุตินำเรื่องเหล่านี้มาขัดแย้งกัน เพราะจะทำให้ภาพลักษณ์ของกรรมาธิการชุดนี้ดูแย่ เหมือนไม่ได้ผลงาน มัวแต่ทะเลาะกัน ถ้าจะขัดแย้งในเรื่องที่มีสาระสำคัญมากกว่านี้ ตนก็พร้อมรับความขัดแย้งนั้น แต่วันนี้มันไม่ได้มีอะะไรเสียหายเลย กรรมาธิการต้องเร่งทำงานแล้ว จนถึงวันนี้เรื่องต่อาายุสัมปทานบีทีเอสก็ยังไม่ได้เริ่มเลย” นายวีระกร กล่าว

ขณะที่ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม กมธ.ให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภาว่า นายวีระกร อาจจะไม่แม่นในระเบียบและข้อกฎหมาย เนื่องจากไม่ได้เป็น ส.ส.มาสิบกว่าปี แต่ตนเองเป็น ส.ส.ต่อเนื่องมาหลายสมัย เคยเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ และเคยเป็น ประธาน กมธ.พาณิชย์ มาแล้ว จึงแม่นกฎหมายและระเบียบข้อบังคับการประชุม กมธ.เป็นอย่างดีว่า การทำหน้าที่ กมธ.ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จะต้องปฎิบัติตามกฎหมายฯ อย่างเคร่งครัด

ข้อเท็จจริงคือ ในการประชุม ครั้งที่ 1 ของคณะ กมธ. ที่ห้องประชุม 401 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา (เกียกกาย) ที่ประชุมมีมติฯ ให้เชิญหน่วยงานที่สำคัญ 5 หน่วยงานมาชี้แจง ในวันที่ 23 ก.ค.62 ดังนี้ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กทพ. ประธานบอร์ด กทพ. ผู้ว่าฯ กทพ. บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด หรือ BEM ที่ปรึกษาโครงการฯ จาก ม.ธรรมศาสตร์

ต่อมา นพ.ระวี และพวก ได้ไปร่วมกันแก้ไขเปลี่ยนแปลงมติฯ ที่ประชุม โดยพลการ ดังนี้ ตามหนังสือด่วนที่สุดที่ สผ.0017.04/74 ลงวันที่ 18 ก.ค.62 ได้ไปเปลี่ยนแปลงฯ ดังนี้ คือ เป่าทิ้งไป 2.-หน่วยงานฯ และ แก้ไขใหม่เป็น ประชุมฯ 2 วัน คือ วันอังคารที่ 23 ก.ค.62 เชิญ สหภาพรัฐวิสาหกิจ กทพ. วันพุธที่ 24 ก.ค.62 เชิญ ประธานบอร์ดฯ กทพ. ผู้ว่าฯ กทพ.

ปัญหาฯข้อกฎหมาย คือ 1.เปลี่ยนแปลง มติที่ประชุมโดยไม่ชอบ 2.เปลี่ยนวันประชุมฯ ไม่ใช่แค่การเรียงลำดับ 3.ไปเป่าทิ้ง 2 หน่วยงาน สำคัญ คือ บ.BEM และ ม.ธรรมศาสตร์ ซึ่ง บ.BEM ที่หมอระวี ไปกล่าวหาว่า กำลังจะรวยเป็นแสนๆล้าน จากการต่อสัมปทานครั้งนี้ แต่กลับไปเอาออก ไม่ยอมเรียกมาให้ คณะกมธ.วิ ทางด่วน สอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นการส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือ ความโปร่งใส ของการทำงานฯ ของคณะ กมธ. วิ ทางด่วน เป็นอย่างยิ่ง จนทำให้ มีการส่งเสียงนินทา ในเรื่องความโปร่งใสในการทำงาน และความเคลือบแคลงสงสัย ในเรื่อง การต่อรองผลประโยชน์ของ กมธ.บางคน ที่ไม่ยอมเรียก บ.BEM มา ทั้งๆ ที่ บ.BEM ถูกตั้งข้อสงสัยจากประชาชนและสังคม ถึงได้มีการตั้ง กมธ.วิสามัญ ทางด่วนชุดนี้ขึ้นมา ศึกษาและหาข้อเท็จจริง

นายยุทธพงศ์ ระบุว่า ขอเรียกร้องให้นายวีระกร ในฐานะประธาน กมธ.วิ ทางด่วนทำงานอย่างตรงไปตรงมา อย่าได้ออกมาปกป้อง นพ.ระวี เพราะเป็นเพื่อนสมัยเป็นนักเรียนที่ รร.สวนกุหลาบวิทยาลัยด้วยกัน ให้เอาผลประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติ มาก่อน