รวบเด็กแว้นแข่งรถหน้าวัดพระแก้ว สารภาพคึกคะนอง

รวบเด็กแว้นแข่งรถหน้าวัดพระแก้ว สารภาพคึกคะนอง

อ้างถูกวัยรุ่นกลุ่มอื่นท้าทาย เรียกผู้ปกครองพูดคุย-ทัณฑ์บน ขณะที่ตร.วอนอีกรายเข้ามอบตัว

กรณีกลุ่มวัยรุ่นขี่จยย.ประลองความเร็วถนนหน้าพระลาน ใกล้กับวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ เมื่อช่วงดึกของวันที่28ก.ค.ที่ผ่านมา มีคนถ่ายคลิปโด่งดังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างยิ่ง เหตุเกิดท้องที่สน.ชนะสงคราม

ล่าสุดที่ สน.ชนะสงคราม เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 30 กรกฎาคม พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผช.ผบ.ตร. พร้อมเจ้าหน้าที่บก.น.1และสน.ชนะสงครามเดินทางมาแถลงข่าวคดีดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายเปาะ (นามสมมติ) อายุ16ปี จับกุมได้ที่บ้านพักย่านมีนบุรี พร้อมของกลางรถจยย.ฮอนด้า รุ่นเวฟ125 สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน

พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงดึกของวันที่ 29 ก.ค. หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหาได้1คน ซึ่งให้การรับสารภาพว่าทำไปเพราะความคึกคะนอง โดยวันเกิดเหตุได้เดินทางมากับกลุ่มเพื่อนจากย่านมีนบุรีเพื่อมาดูการประดับไฟที่ถนนราชดำเนินแล้วพบวัยรุ่นกลุ่มอื่นอยู่ในจุดเกิดเหตุ มีการท้าทายกัน ทั้งที่ไม่รู้จักกัน แต่เพราะเป็นเด็กจึงไม่ได้คิดถึงความเหมาะสม ทางผู้ต้องหาจึงยืมรถเพื่อนแล้วแข่งรถตามที่ปรากฎในคลิปดังกล่าว ตอนนี้ยังเหลือผู้ขับขี่รถจยย.ฮอนด้า เวฟ สีแดงที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่ โดยการกระทำนี้ถือว่าไม่เหมาะสมเพราะจุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่ไว้ประกอบพระราชพิธีสำคัญของประเทศ ขอชี้แจงว่าจุดนี้ไม่เคยมีการร้องเรียนเรื่องการแข่งรถมาก่อน ส่วนทางผู้ขับขี่รถจยย.เวฟสีแดงนั้น ถ้าติดต่อขอมอบตัว ตำรวจก็ยินดีจะมีเหตุบรรเทาโทษให้ ไม่ได้ถึงขั้นเอาตาย ทางเจ้าของรถและประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่ทางบก.สส.ได้เลย

ผช.ผบ.ตร.กล่าวว่า วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญพ่อของผู้ต้องหามาพบตำรวจด้วย โดยตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 22/2558 ให้อำนาจตำรวจเรียกผู้ปกครองมาพูดคุยและทำทัณฑ์บน หากบุตรหลานกระทำผิดซ้ำอีกจะมีความผิดฐานสนับสนุนมีโทษจำคุก3เดือน ปรับ30,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนเจ้าของรถที่ผู้ต้องหาเอามาขี่รถประลองความเร็วนั้น ก็จะถูกแจ้งข้อหาสนับสนุนการแข่งรถด้วย

พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์กล่าวว่าสำหรับผกก.สน.ท้องที่เกิดเหตุนั้น จะมีการตรวจสอบว่าปล่อยปละละเลยหรือไม่ หากพบว่าไม่ได้บกพร่องก็จะไม่มีการย้าย ต้องพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง สำหรับร้านขายอุปกรณ์แต่งรถ กองเชียร์ก็จะถูกดำเนินคดีด้วย เพราะถือว่าเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย

ด้านพ่อของผู้ต้องหาให้การว่า ตนไม่อยากให้ใครก่อเหตุแบบนี้เหมือนลูกของตนอีก เพราะสถานที่ตรงนี้ไม่เหมาะสมที่จะไปแข่งรถแบบนี้ ซึ่งตนอยากให้คนขี่รถจยย.อีกคันเข้ามาพบตำรวจจะดีกว่า

เบื้องต้นจากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหาเคยต้องโทษฐานครอบครองยาเสพติด แต่ไม่เคยถูกจับกุมเรื่องขับขี่รถประลองความเร็ว เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาแข่งรถโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ,ขับรถในลักษณะผิดวิสัย ,ขับรถโดยประมาทหวาดเสียว ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับรถคุมตัวส่งศาลเยาวชนตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป